Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Renia Spiegel

เรเนีย สปีย์เกล (Renia Spiegel)
เรเนีย เกิดวันที่ 18 มิถุนายน 1924 ในตาร์โนโพล, ยูเครน (Uhrynkwoce, Tarnopol province, Ukraine, ) พ่อของเธอชื่อเบอร์นาร์ด (Bernard Speigel) และแม่ชื่อโรส (Rose Speigel)  
เรเนียมีน้องสาวชื่อเอเรียน่า (Ariana) ซึ่งอ่อนกว่าเธอ 6 ปี แต่เอเรียน่าตอนที่เธออายุ 8 ปี เป็นดาราเด็กที่มีชื่อเสียง และได้แสดงละครเวทีเรื่อง Cyrulik Warszawski ซึ่งเป็นละครที่มีชื่อเสียง , และเพราะว่าเอเรียน่าต้องเป็นนักแสดง แม่จึงพาเอเรียน่าไปอยู่ในวอร์ซอร์เพื่อทำงาน ในขณะที่เรเนียถูกส่งไปอยู่กับตายายในเซมีซึล (Przemysl) ในโปแลนด์ ซึ่งห่างจากกราโกว์ (Kraków) ไปทางตะวันออก 150 ไมล์
ซึ่งยายเปิดร้านขายเครื่องเขียนเล็กๆ อยู่ที่เมืองนี้ ในขณะที่ตาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง 
1939 31 มกราคม, เรเนียเริ่มวันแรกของการเขียนบันทึก ช่วงที่สถานการณ์โลกเริ่มตรึงเครียดก่อนสงครามโลกเริ่มต้นขึ้น ตอนนั้นเธอมีอายุ 15 ปี เป็นนักเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมมาเรีย โคนอฟนิคก้า (Maria Konopnicka Middle School)  น้องสาวของเธอมาอยู่ด้วย แต่ว่าแม่ของพวกเธอยังอยู่ในวอร์ซอร์ 
15 มีนาคม, เยอรมันบุกเชคโกสโกวาเกีย (Czechoslovakia)
1 กันยายน, เยอรมันบุกโปแลนด์ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 
6 กันยายน, อังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมัน 
10 กันยายน,  ตามบันทึกของเรเนีย เซมีซึลเมืองที่เธออาศัยอยู่เริ่มถูกทิ้งระเบิด เรเนีย, ย่าและน้องสาวจึงต้องอพยพออกจากเมืองด้วยการเดินเท้าไปตามถนน
18 กันยายน, เรเนียมาอยู่ในลโวว (Lwow)  ซึ่งเมืองกลายเป็นสนามรบระหว่างโซเวียตกับเยอรเยอรมัน
27 ตุลาคม, เรเนียได้กลับมาที่เซมีซึลซึ่งตอนที่กลับมา เมืองได้ตกอยู่ใต้การปกครองของโซเวียต เรเนียกลับเข้าโรงเรียน 
ซึ่งต่อมาเธอพบรักกับซึกมุนต์ ชวาร์เซอร์ (Zygmunt Schwarzer) เด็กหนุ่มเชื้อสายยิว ซึ่งเป็นลูกของหมอและนักเปียโน
1940 17 กุมภาพันธ์, พ่อของเธอกลับมาที่บ้าน ทำให้เรเนียได้รับจดหมายที่แม่เขียนซึ่งบอกว่าเธอกำ
ลังเดินทางไปยังฝรั่งเศส
18 ธันวาคม, เยอรมันบุกสหภาพโซเวียต 
1941 เซมีซึลตกอยู่ใต้ปกครองของเยอรมัน เรเนียและยิวในเมืองถูกสั่งให้สวมปลอกแขนสีขาวที่มีดาวเดวิดสีฟ้าเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นยิว
ตุลาคม, เรเนียได้พบกับแม่
พฤศจิกายน, เยอรมันตั้งเขตกักกันยิว (ghetto)ขึ้นมาในเซมีซึล เรเนียและครอบครัวถูกบังคับให้ออกจากอพาร์ตเม้นท์และไปอยู่ในเขตควบคุมซึ่งห่างจากบ้านพักเดิมของเธอราว 25 กิโลเมตร
1942 15 กรกฏาคม, เรเนียถูกย้ายมาอยู่ในเก็ตโต้แห่งใหม่ในเซมีซึล ซึ่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยมีลวดหนามล้อมรอบและมีทหารคอยเฝ้าทางเข้าออก มียิวราว 20,000 คนถูกกักบริเวณอยู่ในเก็ตโต้นี้ 
30 กรกฏาคม, เรเนียถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต
31 กรกฏาคม, ซึกมุนต์ เขียนไดอารีหน้าสุดท้ายของเรเนีย เขาบันทึกว่าเธอถูกยิงเป้าด้วยกระสุนสามนัด
เอเรียน่ามีชีวิตรอดจากสงครามมาได้ โดยเปลี่ยนชื่อไปใช้ชื่อปลอมว่าอลิซาเบียต้า (Elzbieta) และเปลี่ยนไปนักถือคริสต์ ในขณะที่โรสผู้เป็นแม่เปลี่ยนไปใช้ชื่อมาเรีย (Maria) หลังสงครามพวกเธอไปอาศัยอยู่กับลุงในฝรั่งเศส ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ในสหรัฐฯ  เพนซิลวาเนีย  อลิซาเบียต้า เปลี่ยนไปเป็น อลิซาเบธ (Elizabeth) และเข้าเรียนในโรงเรียนคอนแวนต์ ในขณะที่แม่ก็แต่งงานใหม่กับขาวอเมริกันและภายหลังเสียชีวิตไปโดยที่ไม่เคยบอกประวัติที่แท้จริงของเธอให้กับสามีใหม่รู้
อลิซาเบธเมื่อโตขึ้นเธอกลายเป็นครู และแต่งงานกับจอร์จ เบลแล็ก (George Bellak) ซึ่งเป็นครูเหมือนกัน จอร์จเป็นยิวที่หนีนาซีมาจากออสเตรีย
วันหนึ่งอลิซาเบธบังเอิญได้เจอกับซึกมุนต์ ซวาร์เซอร์ ในนิวยอร์ค เขารอดชีวิตมาจากสงครามโลกได้เช่นกัน และซึกมุนต์ได้เก็บไดอารี่ของเรเนียเอาไว้ด้วย 
1969 มาเรียผู้เป็นแม่เสียชีวิต
1992 ซึกมุนต์เสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก
2014 อลิซาเบธตัดสินใจเปิดเผยไดอารีของพี่สาวของเธอ หลังจากได้สารคดีเกี่ยวกับยิวช่วงสงครามโลกที่สถานกงศุลโปแลนด์ในนิวยอร์ค ซึ่งสร้างโดยโตมัสซ์ มาเกียสกี้ (Tomasz Magierski) 

2016 บันทึกของเรเนีย ถูกตีพิมพ์ในโปแลนด์
Don`t copy text!