Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Month: August 2020

  • Wild Boy of Aveyron

    เด็กป่าแห่งอเวย์รอน (Wild Boy of Aveyron) ถูกพบภายในป่าในเซนต์-เซอร์นิน-เซอร์-แรนซ์ (Saint-Sernin-Sur-Rance) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสในปี 1800 ขณะนั้นเขามีอายุประมาณ 12 ปี ซึ่งคาดกันว่าเขาน่าจะอาศัยอยู่ในป่ามานานหลายปีแล้ว เพราะมีรายงานผู้พบเห็นเด็กคนนี้ในปี 1794 และในปี 1797 เด็กก็ถูกจับที่เมืองทาร์น (Tarn) และเอามาฝากให้กับหญิงม่ายคนหนึ่งเลี้ยงเอาไว้ แต่ว่าราวหนึ่งสัปดาห์เด็กก็สามารถหลบหนีกลับเข้าไปในป่าอีก ในปี 1800  เด็กถูกชาวบ้านที่อเวย์รอนจับตัวเอาไว้ได้ ร่างกายของเด็กไม่ได้สวมอะไร เขายังพูดไม่ได้  ไม่กินอะไรนอกจากผัก เดินสี่ขาเหมือนสุนับ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเด็กหูหนวกและเป็นใบ้ด้วย ชาวบ้านจึงปฏิบัติกับเด็กคนนี้เหมือนกับสุนัข ล่ามเขาเอาไว้นอกบ้าน ต่อมารัฐบาลท้องถิ่นได้ส่งเด็กให้ไปอยู่ในความดูแลของ โรเช่-แอมโบรส ซิเคิร์ด (Roche‐Ambroise Cucurron Sicard) ผู้อำนวยการของสถาบันคนหูหนวก-ตาบอก (Institute for Deaf-Mutes) ในเมืองพริส (Ppris)  นอกจากนั้นคณะกรรมการที่นำโดยฟิลิปเป่ ไพน์ (Philippe Pine) นักจิตเวช ยังเข้ามาศึกษาเด็กคนนี้ด้วย พวกเขาพยายามสอนภาษาฝรั่งเศสพื้นฐานให้กับเด็ก ซึ่งเด็กมีสัญญาณที่ก้าวหน้าบ้าง แต่ก็ยังมีพฤติกรรมก้าวร้าว, ไฮเปอร์ และไม่แสดงความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ต่อมาคณะกรรมการได้สรุปว่าเด็กคนนี้โง่มาก…

  • Cognitive Dissonance

    Cognitive Dissonance (disharmony) คือความขัดแย้งภายในจิตสำนึกจากการรับรู้ข้อมูลใหม่ ที่ขัดแย้งกับ ความคิด, ความเชื่อเดิม, ข้อมูลเดิม ซึ่งทำให้เกิดความเครียดขึ้นภายในจิตใจ ลีออน เฟสตินเจอร์ (Leon Festinger)เป็นผู้เสนอแนวคิดนี้ปี 1957 ในหนังสือ A Theory of Cognitive Dissonance เฟสตินเจอร์ บอกว่ามนุษย์เราเมื่อเกิดความขัดแย้งภายในความคิดของตัวเองแล้ว จะเกิดความเครียด พวกเขาจึงจะหาวิธีที่จะปรับความคิด เพื่อลดความขัดแย้งภายในนี้ลง โดยทำให้เกิดความเข้ากันได้ (consonance หรือ harmony) โดยวิธี เช่น เมื่อเราชอบกินโดนัท แต่ได้ข้อมูลมาว่าโดนัททำให้อ้วย  1. ปรับพฤติกรรม หรือความคิดเดิม ไปยอมรับข้อมูลความคิดชุดใหม่ (ฉันจะเลิกกินโดนัท) 2. ปรับพฤติกรรม หรือความคิดเดิม ให้เข้ากันได้กับข้อมูลความคิดชุดใหม่ โดยลดความขัดแย้ง (ฉันจะกินโดนัทได้ แต่ต้องลดปริมาณลง) 3. ปรับพฤติกรรม หรือความคิดเดิม  ให้เข้ากันได้กับข้อมูลใหม่ โดยเพิ่มเหตุผลหรือพฤติกรรมใหม่เข้าไป (ฉันจะกินโดนัทได้ แต่ต้องหมั่นออกกำลังกาย) 4. ปฏิเสธข้อมูลความคิดชุดใหม่ไปเลย (ไม่ใช่โดนัทที่ทำให้อ้วน…

  • MK-ULTRA

    MK-ULTRA เป็นโครงการวิจัยเพื่อควบคุมจิตและพฤติกรรมของมนุษย์ (mind control program) ของ CIA  ผ่านงานวิจัยหลากหลายวิธีการ ทั้งการใช้สารเคมี, สารชีวภาพ, สารกัมมันตรังสี โดยหวังว่า สารทางจิตเวช (psychoactive chemicals) เหล่านี้จะทำให้เหยื่ออยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้ หรือตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ CIA โครงการ MK-ULTRA นี้ดำเนินการภายใต้สำนักงานวิจัยวิทยาศาสตร์ (Office of Scientific Intelligence) ของ CIA ร่วมกับศูนย์วิจัยอาวุธชีวภาพของกองทัพสหรัฐฯ (United States Army Biological Warfare Laboratories) โครงการ MK-ULTRA ยังพยายามพัฒายาต่อต้านการถูกสอบสวน (anti-interrogation) เพื่อป้องกันสายลับที่อาจจะถูกจับไปสอบสวนโดยสหภาพโซเวียต หรือฝ่ายตรงข้าม จุดเริ่มของ MK-ULTRA ตามสมมุติฐานของ สตีเฟน คินเซอร์ (Stephen Kinzer) นักเขียน บอกว่า โครงการนี้ทำต่อมาตั้งแต่สงครามโลก โดยอเมริการับเอานักวิทยาศาสตร์ของนาซีและญี่ปุ่นที่ทำการทดลองหาวิธีควบคุมจิตใจของมนุษย์อยู่แล้วกับเชลยในค่ายกักกัน โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์ของนาซี ได้มีการทดลองใช้สารเมสคาไลน์ (mescaline) กับนักโทษในค่ายกักกันดาชัว…

  • The Availability Heuristic

    We aren’t good at estimating frequency, so we base it how available things are to our mind พวกเราไม่ได้มีความสามารถดีขนาดนั้นประมาณความถี่, พวกเราแค่อาศัยสิ่งที่โผล่ขึ้นมาในหัวขณะนั้นในการตัดสิน The Availability Heuristic (การหยิบความคิดที่โผล่ขึ้นมาในแว๊บแรกในการตัดสินใจ) เทอมศัพท์ถูกนิยามขึ้นในปี 1973 โดยนักจิตวิทยารางวัลโนเบล 2 ท่าน คือ เดเนียล คาห์เนมัน (Daniel Kahneman) และเอมอส ทเวอร์สกี้ (Amos Tversky)  ซึ่งได้เขียนไว้ในรายงานวิจัยเรื่อง “heuristic and biases (การดึงความทรงจำและทัศนะคติที่เอนเอียง)”  พวกเขาบอกว่า Availability Heuristic เป็นเส้นทางลัด (short cut) ของความนึกคิด เกิดขึ้นในจิตใต้สำนึกโดยที่พวกคุณไม่รู้ตัว อาศัยหลักการที่ว่า  “ คุณนึกถึงสิ่งใดตอนนั้น, สิ่งนั้นก็มีความสำคัญ /…

  • Louis Victor Leborgne

    หลุยส์ วิคเตอร์ เลอบอร์กเน (Louis Victor Leborgne) ผู้ป่วยท่ีถูกเรียกว่าแทน (Tan) สมองของเขาทำให้ค้นพบ Broca’s area สมองในส่วยควบคุมการพูด 1840 วิคเตอร์เป็นชาวฝรั่งเศส ที่เขามีอาการป่วยด้วยโรคลมบ้าหมู (epilepsy) เรื้อรังมาตั้งแต่ยังเล็ก จนกระทั้งเมื่ออายุ 30 ปี วิคเตอร์เกิดสูญเสียความสามารถในการพูดอย่างกระทันหัน เขาจึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบิเคเตอร์ (Bicêtre) ชานกรุงปารีส ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับจิตเวช  ตอนเข้ารับการรักษาวิคเตอร์สามารถที่จะออกเสียงคำได้เพียงพยางค์เดียวคือคำว่า แทน (tan) ซึ่งทำให้หมอและพยายาลเรียกเขาว่าแทน  เมื่อการรักษาผ่านไปสามเดือน อาการของวิคเตอร์ก็ยังไม่ดีขึ้น นอกจากนั้นยังมีการลมบ้าหมู (epilipsy) ประกอบเข้ามาด้วย 10 ปีหลังจากเข้ารักษาตัว วิคเตอร์เริ่มมีอาการแขวนขวามอัมพฤกษ์ และต่อมาขาด้านขวาก็มีอาการอัมพฤกษ์ตามมาด้วย และต่อมาอาการทางด้านสายตาก็ตามมา  1861 เมษายน, วิคเตอร์เริ่มมีอาการเนื้อตายบนร่างกาย ซึ่งต่อมาได้เกิดเป็นอาการติดเชื้อทั่วร่างกายซึกขวา 11 เมษายน, ถูกนำตัวเข้าผ่าตัด โดยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้เขาคือหมอปิแอร์ โบรค่า (Pierre Paul Broca)  ระหว่างการรักษา หมอโบรค่าได้ทำการทดสอบวิคเตอร์ และพบว่าเขายังมีสติดีและเข้าใจ โดยหมอโบรค่าให้เขาตอบโดยการเคลื่อนไหวแขนซ้ายแทน …

  • Thomas J. Watson Jr.

    โธมัส วัตสัน จูเนียร์ (Thomas “Tommy” J. Watson Jr.) วัตสัน เกิดวันที่ 14 มกราคม 1914 ในเดย์ตัน, โอไฮโอ (Dayton , Ohio) พ่อของเขาคือ โธมัส วัตสัน, ซีเนียร์ (Thomas J. Watson) และแม่ชื่อเจนเน็ตต์ (Jeannette M. Kittredge)  วัตสัน มีน้องสาวสองคนชื่อเจน และเฮเลน และน้องชายคนสุดท้องชื่ออาร์เธอร์  ขณะที่วัตสันเกิด พ่อของเขายังทำงานเป็นเซลแมนอยู่ที่บริษัท NCR (National Cash Register)  แต่ว่าไม่นานก็ต้องออกจากบริษัทเพราะคดีเกี่ยวกับการผูกขาดธุรกิจ และต่อมาได้มาทำบริษัทใหม่ซึ่งกลายมาเป็น IBM วัตสันเติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านชอร์ต ฮิลล์, มิลล์เบิร์น (Short Hills, Millburn) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ (New Jeersy) ห่างจากนิวยอร์คไปราวยี่สิบไมล์  เขาเรียนที่โรงเรียนชอร์ต ฮิลล์ คันทรี…

  • Marie-Madeleine Fourcade

    มาเรีย-มาเดลีน ฟอร์ซาด (Marie-Madeleine Fourcade) รหัสของเธอคือ “Herisson (Hedgehog)” เธอเป็นผู้นำเครือข่ายสายลับ “Alliance” ของฝรั่งเศสซึ่งต่อต้านนาซีเยอรมันในสงครามโลก ครั้งที่ 2  มาเดลีน  เกิดวันที่ 11 สิงหาคม 1909 ชื่อเดิมคือมาเรีย-มาเดลีน บริเดา (Marie-Madeleine Bridou) เธอเกิดในเมืองมาร์แซลล์ (Marseille)  พ่อชื่อว่าลูเซียน (Lucien Bridou) และแม่ชื่อมาธิลเด่ (Mathilde Bridou) มาเดลีนเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนคอนแวนต์ในเมืองชางไห่ (Shanghai) ซึ่งพ่อของเธอเป็นทหารที่ถูกส่งไปดูแลบริษัท Messageries Maritimes ซึ่งเป็นกิจการเดินเรือของฝรั่งเศสกับอาณานิคม 1926 ตอนอายุ 17 เธอแต่งงานกับพันโทเอโดอาร์ด เมริค (Edouard Jean Méric) และมีลูกด้วยกันสองคน ซึ่งลูกชายเกิดในปี 1929 และลูกสาวในปี 1932 แต่ว่าชีวิตคู่ของทั้งสองคนห่างเหินกันไปหลังจากเมริคต้องไปทำงานที่โมร็อคโค และมาเดลีนไม่ได้พบหน้าลูกๆ ของเธอนานหลายปี  1936 มาเดลีน ได้พบกับ ร้อยเอกจอร์จ…

  • Marie-Madeleine Fourcade

    มาเรีย-มาเดลีน ฟอร์ซาด (Marie-Madeleine Fourcade) รหัสของเธอคือ “Herisson (Hedgehog)” เธอเป็นผู้นำเครือข่ายสายลับ “Alliance” ของฝรั่งเศสซึ่งต่อต้านนาซีเยอรมันในสงครามโลก ครั้งที่ 2  มาเดลีน  เกิดวันที่ 11 สิงหาคม 1909 ชื่อเดิมคือมาเรีย-มาเดลีน บริเดา (Marie-Madeleine Bridou) เธอเกิดในเมืองมาร์แซลล์ (Marseille)  พ่อชื่อว่าลูเซียน (Lucien Bridou) และแม่ชื่อมาธิลเด่ (Mathilde Bridou) มาเดลีนเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนคอนแวนต์ในเมืองชางไห่ (Shanghai) ซึ่งพ่อของเธอเป็นทหารที่ถูกส่งไปดูแลบริษัท Messageries Maritimes ซึ่งเป็นกิจการเดินเรือของฝรั่งเศสกับอาณานิคม 1926 ตอนอายุ 17 เธอแต่งงานกับพันโทเอโดอาร์ด เมริค (Edouard Jean Méric) และมีลูกด้วยกันสองคน ซึ่งลูกชายเกิดในปี 1929 และลูกสาวในปี 1932 แต่ว่าชีวิตคู่ของทั้งสองคนห่างเหินกันไปหลังจากเมริคต้องไปทำงานที่โมร็อคโค และมาเดลีนไม่ได้พบหน้าลูกๆ ของเธอนานหลายปี  1936 มาเดลีน ได้พบกับ ร้อยเอกจอร์จ…

  • Thomas J. Watson Sr.

    โธมัส วัตสัน (Thomas John Watson, Sr.) ผู้ก่อตั้ง IBM วัตสัน เกิดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1874 ในแคมป์เบลล์, นิวยอร์ค (Campbell, New York, U.S.)  มาจากครอบครัวที่อพยพจากสก็อตแลนด์ช่วงปี 1840s  พ่อของเขาทำธุรกิจค้าไม้ ชื่อโธมัส (Thomas Watson) และแม่ชื่อเจน (Jane Fulton White) มีอาชีพเป็นครู   วัตสันเป็นลูกคนสุดท้องของบ้านและเป็นลูกชายคนเดียวในพี่น้องทั้งหมดสี่คน พี่สาวของเขาชื่อเจนนี่ (Jennie), เอฟฟี่ (Effie), ลัวอา (Loua), และเอ็มม่า (Emma) พวกเขาเติบโตขึ้นมาในฟาร์มของครอบครัวใกล้กับเพนต์ โพสต์ (Painted Post) ทางตอนใต้ของนิวยอร์ค   วัตสันเริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนหมายเลข 5 (District School Number Five)  ก่อนที่จะมาเรียนต่อที่สถาบันแอดดิสัน (Addison Academy)…

  • World Ice Theory

    Welteislehre (World Ice Theory, “WEL”) ทฤษฏีโลกน้ำแข็ง หรือ Glacial Cosmogony (Glazial-Kosmogonie)  เกิดจากความฝันวิศวกรชาวออสเตรีย ชื่อ ฮานน์ ฮอร์ไบเจอร์ (Hanns Hörbiger) ในปี 1894 ฮานน์ มองดวงจันทร์ แล้วก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าแสงจันทร์ที่เห็นน่าจะเกิดจากแสงที่สะท้อนแผ่นน้ำแข็ง หลังจากนั้นเขาได้ฝันว่าตัวเองล่อยลอยอยู่ในอวกาศ และมองเห็นลูกตุ้มเพนดูลัมขนาดใหญ่แกว่งไปมา และก็ขยายวงออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแตกออก  จนเขาตกใจตื่นขึ้นมา ฮอร์ไบเยอร์ตีความความฝันของตัวเองได้ว่าทฤษฏีของนิวตันจะต้องผิดแน่นอน เพราะแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์จะหายไปที่ระยะทางสามเท่าถึงดาวเนปจุน  หลังจากนั้นฮานน์ได้พัฒนาทฤษฏีของเขาร่วมกับฟิลิปป์ ฟอท (Philipp Johann Heinrich Fauth) ครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งและเป็นนักดาราศาสตร์สมัครเล่น  ในปี 1912 ฮานน์และฟิลิปป์ ร่วมกันเขียนหนังสือ World Ice Theory (Glazial-Kosmogonie) ออกมา ซึ่งเสนอทฤษฏีโลกน้ำแข็งที่อ้างว่าน้ำแข็งเป็นธาตุพื้นฐานในการสร้างสรรพสิ่งในจักรวาล และระบบสุริยะจักรวาลนั้นเกิดจากดาวขนาดใหญ่ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักพุ่งเข้าชนกัน แรงระเบิดทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ แยกออกจากกันและเกิดช่องว่างขี้นมากลายเป็นแกแล็กซี่และระบบสุริยะ ส่วนทางช้างเผือกที่เห็นเป็นสีขาวคือน้ำท่ีจับกันเป็นก้อนนำ้แข็ง และยังบอกว่าโลกเคยมีดวงจันทร์หลายดวงแต่ว่าดวงจันทร์ส่วนหนึ่งได้ตกลงมาพุ่งเข้าชนโลก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม, ยุคน้ำแข็ง และทำให้เปลือกโลกแบ่งเป็นหลายชั้น และมนุษย์เองก็เกิดจากอุกาบาศที่มีสเปิร์มของเทพอยู่ หนังสือและทฤษฏีของฮานน์ไม่ได้รับความสนใจมากนักในตอนแรก …

  • World Ice Theory

    Welteislehre (World Ice Theory, “WEL”) ทฤษฏีโลกน้ำแข็ง หรือ Glacial Cosmogony (Glazial-Kosmogonie)  เกิดจากความฝันวิศวกรชาวออสเตรีย ชื่อ ฮานน์ ฮอร์ไบเจอร์ (Hanns Hörbiger) ในปี 1894 ฮานน์ มองดวงจันทร์ แล้วก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าแสงจันทร์ที่เห็นน่าจะเกิดจากแสงที่สะท้อนแผ่นน้ำแข็ง หลังจากนั้นเขาได้ฝันว่าตัวเองล่อยลอยอยู่ในอวกาศ และมองเห็นลูกตุ้มเพนดูลัมขนาดใหญ่แกว่งไปมา และก็ขยายวงออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแตกออก  จนเขาตกใจตื่นขึ้นมา ฮอร์ไบเยอร์ตีความความฝันของตัวเองได้ว่าทฤษฏีของนิวตันจะต้องผิดแน่นอน เพราะแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์จะหายไปที่ระยะทางสามเท่าถึงดาวเนปจุน  หลังจากนั้นฮานน์ได้พัฒนาทฤษฏีของเขาร่วมกับฟิลิปป์ ฟอท (Philipp Johann Heinrich Fauth) ครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งและเป็นนักดาราศาสตร์สมัครเล่น  ในปี 1912 ฮานน์และฟิลิปป์ ร่วมกันเขียนหนังสือ World Ice Theory (Glazial-Kosmogonie) ออกมา ซึ่งเสนอทฤษฏีโลกน้ำแข็งที่อ้างว่าน้ำแข็งเป็นธาตุพื้นฐานในการสร้างสรรพสิ่งในจักรวาล และระบบสุริยะจักรวาลนั้นเกิดจากดาวขนาดใหญ่ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักพุ่งเข้าชนกัน แรงระเบิดทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ แยกออกจากกันและเกิดช่องว่างขี้นมากลายเป็นแกแล็กซี่และระบบสุริยะ ส่วนทางช้างเผือกที่เห็นเป็นสีขาวคือน้ำท่ีจับกันเป็นก้อนนำ้แข็ง และยังบอกว่าโลกเคยมีดวงจันทร์หลายดวงแต่ว่าดวงจันทร์ส่วนหนึ่งได้ตกลงมาพุ่งเข้าชนโลก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม, ยุคน้ำแข็ง และทำให้เปลือกโลกแบ่งเป็นหลายชั้น และมนุษย์เองก็เกิดจากอุกาบาศที่มีสเปิร์มของเทพอยู่ หนังสือและทฤษฏีของฮานน์ไม่ได้รับความสนใจมากนักในตอนแรก …

Don`t copy text!