Numquam prohibere somniantes 

Never stop dreaming

J. M. W. Turner

เจ. เอ็ม. ดับเบื้ลยู เทิร์นเนอร์ (Joseph Mallord William Turner)

จิตรกร ฉายา “the painter of light”

เทิร์นเนอร์ เกิดวันที่ 23 เมษายน 1775 ในลอนดอน วันเกิดที่แท้จริงของเขานั้นไม่แน่ชัด แต่ว่าเทิร์นเนอร์ได้เข้าพิธีแบ๊บติสต์ในวันที่ 24 พฤษภาคม ที่วิหารเซนต์ พอล (St. Pual church) พ่อของเขาชื่อวิลเลี่ยม (William Turner,1738-1829) มีอาชีพเป็นช่างตัดผม และช่างทำวิกผม ส่วนแม่ชื่อมารี (Mary Marshall)  เทิร์นเนอร์มีน้องสาวคนหนึ่งชื่อมารี แอนน (Mary Ann) แต่เธอเสียชีวิตในปี 1783 ตอนอายุ 5 ขวบ

1785 ตอนเทิร์นเนอร์อายุสิบปี แม่ของเขาเริ่มมีอาการป่วยจิตเวช และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลลุ๊ค (St Luke’s Hospital for Lunatics)  ทำให้เทิร์นเนอร์ถูกส่งไปอาศัยอยู่กับน้าโจเซฟ (Joseph Mallord William Marshall) ที่เมืองเบร็นต์ฟอร์ด (Brentford, Middlesex) เมืองเล็กๆ ทางตะวันตกของลอนดอน และอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเธมส์ (Thames river)  และเทิร์นเนอร์ได้เข้าเรียนในโรงเรียนของจอห์น ไวต์ (John Wihte) 

1786 ย้ายมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนในมาร์เกต (Margate) ซึ่งที่นี่เขาได้เขียนภาพวิวของเมืองเอาไว้หลายภาพ ซึ่งภาพบางภาพพ่อของเขาเอาไปตั้งโชว์ในร้านและขายออกไปในราคาถูก

1789 เข้าเรียนที่สถาบันศิลปะ (Royal Academy of Arts school) ตอนอายุ 14 ปี โดยที่เทิร์นเนอร์มีความสนใจที่จะเรียนด้านสถาปัตยกรรม  แต่เพราะคำแนะนำของโธมัส ฮาร์ดวิกค์ (Thomas Hardwick) ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่สถาบันแห่งนี้ ทำให้เขาเลือกที่จะโฟกัสด้านการวาดภาพต่อไป 

โดยภาพ A View of the Archbishop’s Palace เป็นภาพสีน้ำแรกของเทิร์นเนอร์ที่สถาบันยอมรับและนำไปจัดแสดงในนิทรรศกาลในปีต่อมา หลังจากนั้นงานของเขาก็ได้เข้าร่วมในนิทรรศกาลของสถาบันเกือบทุกปี 

1796 วาดภาพสีน้ำมัน Fisherman at Sea ซึ่งเป็นภาพสีน้ำมันชิ้นแรกที่เทิร์นเนอร์ส่งไปจัดแสดงกับ Royal Academy 

1797 ได้พบกับวอลเตอร์ ฟอร์เกอร์ (Walter Ramsden Fawkers) ในยอร์คไชด์ ซึ่งเทิร์นเนอร์ได้รับการว่าจ้างให้วาดภาพวิวทิวทัศน์ของเมืองหลายภาพ  วอลเตอร์กลายเป็นสปอนเซอร์หลักคนหนึ่งที่อุตหนุนผลงานของเทิร์นเนอร์ 

1799 ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ Royal Academy 

1801 เทิร์นเนอร์ไม่เคยแต่งงาน แต่ว่าเขามีลูกสาวชื่อ อีเวอร์ลีน (Eveline)  เกิดจากซาราห์ แดนบี้ (Sarah Danby) หญิงม่ายซึ่งทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของเขา 

1804 เขาเปิดสตูดิโอศิลปะของตัวเองขึ้นมาเพื่อให้สร้างและแสดงผลงาน 

1811 จอร์เจียน่า (Geogiana) ลูกสาวอีกคนหนึ่งเกิดขึ้นมา 

1829 พ่อของเขาเสียชีวิต ทำให้เทิร์นเนอร์เสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาสนิทกับพ่อมาก และพ่อก็ทำงานเป็นผู้ช่วยในสตูดิโอของเขามาโดยตลอด 

1851 19 ธันวาคม, เสียชีวิตในลอนดอน ในวัย 76 ปี จากโรคอหิวาห์ ซึ่งร่างของเขาถุกนำไปฝังที่วิหารเซนต์พอล (St. Paul’s Cahtedral) โดยที่ว่ากันว่าก่อนเสียชีวิตเทิร์นเนอร์ ได้พูดประโยคสุดท้ายว่า “The Sun is God” ซึ่งอาจจะเป็นคำกล่าวเพื่อยกย่องเขา

Don`t copy text!