Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Bodhidharma (Da Mo)

พระโพธิธรรม (Bodhidharma, 菩提達摩) หรือ ตั๊กม้อ (Damo, 達摩)

พระโพธิธรรม หรือ  ตั๊กม้อ มีชีวิตอยู่ระหว่างศตวรรษที่ 5-6  เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำเอาพุทธนิกาย ฉาน (禪宗, Chán) หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า นิกายเซน (Zen) เข้าไปเผยแพร่ในประเทศจีน 

ประวัติของตั๊กม้อนั้นไม่ชัดเจน แต่ว่ามีอยู่สองความเชื่อหลัก คือ 1. บอกว่าตั๊กม้อเป็นชาวเปอร์เซีย และอีกความเชื่อหนึ่งบอกว่าตั๊กม้อเป็นชาวอินเดีย

เอกสารที่บันทึกเกี่ยวกับตั๊กม้อ

  1. 續高僧傳 (Xù gāosēng zhuàn, Biographies of Eminent Monks ) โดย เต้าเชียน (道宣, Daoxuan)  พระในราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) โดยบรรยายว่าพระโพธิธรรมเป็นนักบวชจากอินเดียตอนใต้ ในลัทธิมหายาน ได้ออกเดินทางโดยใช้เส้นทางทางทะเลมายังจีน โดยมาขึ้นที่เมืองหนานเย่ (Nanyue) ในสมัยราชวงศ์ซ่ง (Liu Song Dynasty) ต่อมาจึงเดินทางไปยังเมืองลั่วหยาง (Loyang) ของอาณาจักรเหว่ยเหนือ (Norther Wei) เพื่อเผยแพร่ศาสนา แต่ว่าไม่สำเร็จ แต่ว่าได้ศิษย์มาสองคน คือ ไต้ซือฮุยเข่อ (大祖慧可,Huike) และเต๋าหยู (Daoyou) ไต้ซือฮุยเข่ต่อมากลายเป็นพระสังฆราชองค์ที่ 2 ของนิกายเซนต่อจากตั๊กม้อ … หนังสือเล่มนี้ยังบอกด้วยว่า ตั๊กม้อเสียชีวิตที่ริมฝั่งแม่น้ำลั่ว (Lou river) ในเหอหนาน
  2. 洛陽伽藍記 (Luoyang Jia Lan Ji ,The History of the monasteries of Luoyang, ประวัติของพระอารามในเมืองลั๊วหยาง) โดย หยาง ชวนจือ (楊衒之, Yang Xuanzhi) ซึ่งพิมพ์ในปี 547  หยาง ชวนจือได้บันทีกเอาไว้ว่าเขาได้เดินทางไปยังวัดหยงหนิง (Yong Ning Temple) แล้วมีโอกาสได้พบกับพระชาวเปอร์เซีย ชื่อว่า สมณะโพธิธรรม (Sramana Bodhidharma) ซึ่งขณะนั้นพระมีอายุได้ 150 ปี แล้ว

 ประวัติตามความเชื่อว่าตั๊กม้อ เป็นเปอร์เซีย

480 ตั๊กม้อเดินทางเข้าไปยังประเทศจีน โดยข้ามเทือกเขาหิมาลัย โดยเข้าไปในจีนทางตอนใต้ ตรงกับช่วงของราชวงศ์ เหลียง (Liang dynasty) ในรัชสมัยของจักรพรรดิอู่ (Wu Emperor of Liang) จักรพรรดิอู๋เป็นจักรพรรดิที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก จนในปี 517 ได้สั่งให้มีการทำลายวัดของลัทธิเต๋า (Taoist Temple) และเปลี่ยนเป็นวัดพุทธ จักรรดิอู่ถูกเปรียบว่าเป็นพระเจ้าอโศก (Asoka , The Great) แห่งเมืองจีน

520 ราวปี 520 ตั๊กม้อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าจักรพรรดิอู่ ซึ่งตำนานเล่าว่าจักรพรรดิได้รับสั่งถามตั๊กม้อว่าเพราะองค์ได้สร้างวัดพุทธขึ้นมากมายและก็ยังมอบเงินบริจาคสนับสนุนมหาศาล พระองค์จะได้บุญมากเท่าไหร่ ?

ตั๊กม้อตอบว่า, “ไม่ได้เลย เพราะการทำโดยหวังสิ่งตอบแทนเป็นกิเลส”

เมื่อได้ฟังคำตอบ จักรพรรดิอู่ก็ทรงไม่พอพระทับ  ตั๊กม้อเดินทางออกจากเหลียงมุ่งไปทางเหนือ ไปยังอาณจักรเหว่ยเหนือ (Northern Wei)

523 เดินทางไปยังเมืองเหอหนาน (Henan) และต่อมาก็ได้ก่อตั้งวัดเส้าหลิน (Shaolin Monastery) ขึ้นมาที่เมืองนี้

ประวัติตามความเชื่อว่าตั๊กม้อเป็นชาวอินเดีย

เป็นโอรสคนที่สองของกษัตริย์สุกันธะ(King Sugandha) แห่งราชวงศ์ Pallavas Dynasty ซึ่งปกครองอาณาจักรกันชิปุราม (Kanchipuram) ใกล้กับมาดรัส (Madras)  กันชิปุรามซึ่งเป็นอาณาจักรทางตอนกลางของอินเดียปัจจุบัน 

เมื่ออายุได้ 7 ปี ได้เรียนหนังสือกับครูชื่อปราชญ์นาตระ (Prajnatara) ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อขององค์ชาย จาก Bodhitara เป็น Bodhidharma เมื่อเติบใหญ่ขึ้น ก็กลายเป็นนักรบใช้ชื่อ Kshatriya

เมื่อพระบิดาของเจ้าชายสวรรคต เจ้าชายยังคงช่วยครูของเขาเผยแพร่พุทธศาสนาต่อไปอีกหลายปี จนกระทั้งครูของเขาเสียชีวิต โพธิธรรม จึงได้ออกเดินทางมาเผยแพร่ศาสนาในจีน โดยใช้เส้นทางทางทะเล

ชาวอินเดียยังยกย่องตั๊กม้อว่าเป็นพระสังฆราช องค์ที่ 28 ของนิกายมหายาน (Mahayana) ในอินเดีย และสังฆราชองค์แรกของจีน 

เมื่อมายังจีน ได้เข้าทำงานในราชสำนักของจักรพรรดิวู ได (Emperor Wu Dai, 465-550) แต่ว่าเมื่อเห็นว่าจักรพรรดิไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับคำสอนของศาสนาที่เขาสอน จึงได้ออกเดินทางข้ามแม่น้ำแยงซีมายังลัวหยาง (Luoyang) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาของจีนเวลานั้น  แต่ว่าในลัวหยางตั๊กม้อถูกทำร้ายและทารุณ มีชีวิตอย่างยากลำบาก จึงได้ออกเดินทางอีก และสุดท้ายได้มายังวัดเส้าหลิน (Shaolin Temple) ในฮูหนาน (Henan Province)

ตั๊กม้อได้ทำวิปัสนากรรมฐานอยู่ในวัดเส้าหลินนานกว่า 9 ปี และระหว่างนี้ได้มีพระจีนชื่อว่า Shen Guang ได้มาศึกษาเป็นลูกศิษย์ของตั๊กม้อ 

วิชาซึ่งตั๊กม้อ เป็นผู้คิดขึ้น

  1. ซีสุ่ยจิง (洗髓經 , Xǐsuǐjīng)
  2. อี้จินจิง (易筋经 ,Yijinjing, คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอน)
  3. ฉีบาลัวะฮั่นโชว(十八羅漢手, Shiba luohan shou , ฝ่ามือ 18 อรหันต์)

เรื่องเล่าเกี่ยวกับตั๊กม้อ

1. ตำนานยังเล่าว่า ตั๊กม้อ เป็นคนทำให้เกิด ต้นชา (tea plant) ขึ้นมา เมื่อมีอยู่วันหนึ่งระหว่างที่ตั๊กม้อกำลังนั่งสมาธิอยู่ภายในถ้ำ แต่ว่าเขารู้สึกง่วงจนรู้สึกว่าหนังตาหนักจนจะปิดให้ได้ แต่ว่าตั๊กม้อตั้งใจที่จะไม่นอน จึงได้ฉีกหนังตาของตัวเองออก และเควี้ยงทิ้งลงบนพื้นดิน และจุดที่หนังตาของตั๊กม้อตกลงนั้นก็ได้มีต้นชางอกขึ้นมา

Don`t copy text!