ปีเตอร์ โปปอฟ (Пётр Семёнович Попов)
สายลับ GRU (Soviet military intelligence) หน่วยข่าวกรองของกองทัพสหภาพโซเวียวต ซึ่งเขาเป็นสายลับคนแรกที่แปรพักตร์ไปทำงานให้กับ CIA
โปปอฟ เกิดเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 1923 ในครอบครัวเกษตรกร ในเมืองคอสโตรม่า (Kostoma)
1942 ได้ร่วมรบในสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดยเป็นกำลังพลในหน่วยลำเรียงยุทธภัณฑ์
1947 สำเร็จการศึกษาจากสถาบันทหารด้านลอจิสติกส์ (Military Academy of Logistics and Supply)
1951 สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการทูตทางทหาร (Military Diplomatic Academy)
1953 โปปอฟ ถูกส่งไปทำงานอยู่ในเวียนนา ซึ่งหน้าที่หลักของโปปอฟเป็นการหาชาวออสเตรียที่อยากจะทำงานเป็นสายลับที่จะถูกส่งไปทำงานในยูโกสลาเวีย
ในเวียนนานี่เองที่โปปอฟได้ติดต่อกับ CIA เพื่อขายความลับของสหภาพโซเวียต ซึ่งมีหลายสมมุติฐานว่าทำไมเขาถึงได้กลายเป็นสายลับสองหน้า โดยเอกสารของ CIA เองบอกว่าโปปอฟเป็นฝ่ายเสนอตัวที่จะขายความลับของสหภาพโซเวียต โดยเขาได้ไปหย่อนจดหมายลงในรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทูตของสหรัฐฯ ที่อยู่ในเวียนนาเพื่อเสนอตัวเองในเดือนมกราคม
แต่มีอีกสมมุติฐานหนึ่งบอกว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่ CIA แบ็คเมล์
เมื่อเขาทำงานให้กับ CIA โปปอฟ ถูกเรียกด้วยชื่อรหัสว่า ATTIC และในการณ์นี้ CIA ก็ได้ตั้งหน่วยพิเศษขึ้นมาในชื่อ SR-9 special unit เป็นเครือข่ายที่สนับสนุนการทำงานของโปปอฟและเคลื่อนไหวแฝงตัวอยู๋ในสหภาพโซเวียต โดยเจ้าหน้าที่ที่คอยทำหน้าที่ประสานงานกับโปปอฟ คือ จอร์ คิซวัลเจอร์ (George Kisevalter)
โดยข้อมูลที่โปปอฟส่งให้สหรัฐฯ ในช่วงเวลา 6 ปีที่เขาขายความลับให้แก่ CIA เป็นข้อมูลเกี่ยวกับระบบการทำงานของกองทัพแดง, เรือดำน้ำนิวเคลียร์, จรวดมิสไซด์ ของสหภาพโซเวียต
เชื่อกันว่าโปปอฟมีความไม่พอใจต่อรัฐบาลสหภาพโซเวียตเป็นการส่วนตัว เขาไม่ซึมซับกับแนวคิดอุดมคติของคอมมิวนิสต์ ที่ทุกคนต้องอุทิศตนเป็นเครื่องมือให้กับรัฐในขณะที่โลกตะวันตกอย่างอเมริกามีเสรีภาพมากกว่า
ในเวียนนาเขาพบรักกับมิลิก้า โคฮาเน็ก (Milica Kohanek) แม้ว่าเขาจะมีภรรยาอยู่ในโซเวียตอยู่แล้ว แต่ว่าโปปอฟยังดูแลส่งเสียทั้งคู่โดยไม่ทิ้งใคร
1955 โปปอฟ เดินทางกลับไปยังมอสโคว์ หลังจากสหภาพโซเวียตถอนทหารออกจากออสเตรีย ซึ่งเมื่อกลับมาสหภาพโซเวียตเขาได้เลื่อนยศเป็นพันโท
1959 18 กุมภาพันธ์, โปปอฟถูกทางการโซเวียตจับ ระหว่างที่พยายามจะหลบหนีไปยังฟินแลนด์ โดยเขาถูกจับบบริเวณสถานีรถไฟ
1960 7 มกราคม, ถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า