Numquam prohibere somniantes 

Never stop dreaming

Averroes

[miniorange_social_login]

อเวอร์โรเอส (Abū al-Walīd Muḥammad ibn Ahmad Ibn Rushd)

นักปรัชญา เป็นพหูสูตชาวมุสลิม

อเวอร์โรเอส เกิดเมื่อปี 1126 ในคอร์โดว่า (Cordova) ครอบครัวของเขาเป็นชาวแอนดาลุเซีย (Andalusia) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสเปนในปัจจุบัน พ่อของเขาเป็นผู้พิพากษา เช่นเดียวกับปู่ของเขา ตระกูลของเขามีอิทธิพลมาก โดยเฉพาะปู่ที่ชื่อ อบิน รุสห์ (Ibn Rushd) ซึ่งนอกจากเป็นผู้พิพากษาแล้วยังเป็นผู้ที่แต่งหนังสือด้านกฏหมายเอาไว้หลายเล่ม 

เขาได้เรียนกฏหมายกับ อิบิน ริซก์ (al-Hafiz Abu Muhammad ibn Riza) และ อิบิน ชาชกุวัล(Ibn Bashkuwal) ซึ่งทั้งสองคนเป็นลูกศิษย์ของปู่ของเขา

ตอนที่อเวอร์โรเอสมีอายุ 22 ปี ตระกูลอัลโมฮัดส์ (Almohads) ได้ขึ้นมามีอำนาจในแอนดาลูเซียและมาเกร็บ (Maghreb) ทำให้ตระกูลของอเวอร์โรเอสซึ่งใกล้ชิดมีอำนาจยิ่งขึ้นไปด้วย

1153 มาอยู่ในมาร์ราเกสห์ (Marrakesh) ปัจจุบันคือประเทศมอร็อกโค แต่ในขณะนั้นมาร์ราเกสห์เป็นเมืองหลวงของรัฐอัลโมฮัด (Almohad Caliphate) อเวอร์โรเอสมาที่เมืองนี้เพื่อร่วมในโคงการสร้างวิทยาลัยแห่งใหม่ขึ้นมา และเขายังเดินทางมาเพื่อสำรวจดวงดาวทางดาราศาสตร์ โดยหวังว่าจะหาคำตอบเกี่ยวกับกฏเกณฑ์การเคลื่อนที่ของดวงดาวซึ่งยังไม่เป็นที่รู้ในขณะนั้น ซึ่งความพยายามของอเวอร์โรเอสก็ไม่ประสบความสำเร็จ

เล่ากันว่าระหว่างอยู่ในมาร์ราเกสห์ อเวอร์โรเอส ได้รู้จักกับ อิบิน ทูเฟล (Ibn Tufayl) นักปรัชญาที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ทั้งสองคนสนิทสนมกันแม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในด้านความเชื่อ 

1169 เพราะคำแนะนำจากอิบิน ทูเฟล ทำให้อเวอร์โรเอส ได้เข้าเฝ้ากาหลิบอาบู ยูซุฟ (Abu Yaqub Yusuf) กาหลิบแห่งรัฐอัลโมฮัด ซึ่งเล่ากันว่ากาหลิบอาบู ยูซุฟ เป็นผู้ที่ถามอเวอร์โรเอส ว่า สรรค์มีจริงหรือไม่มีจุดเริ่มต้นและจะคงอยู่ตลอดไปหรือไม่ ? ซึ่งอเวอร์โรเอสไม่ได้ตอบคำถามนี้เพราะเกรงว่าคำตอบจะทำให้เขาได้รับภัยอันตรายในตอนแรก แต่เมื่อกาหลิบได้แสดงทัศนะของพระองค์และอ้างถึงมุมมองของนักปรัชญาหลายคน อย่างเพลโต (Plato) อริสโตเติ้ล (Aristotle) และนักปรัชญามุสลิมคนอื่นๆ ทำให้อเวอร์โรเอสกล้าที่จะแสดงความเห็นของตนเองออกมา และชื่นชมในกาหลิบที่พระองค์เป็นผู้ใฝ่ความรู้

และเมื่อกาหลิบมีความไม่เข้าใจในงานเขียนของอริสโตเติ้ล อเวอร์โรเอสก็ทำหน้าที่คอยให้คำอธิบาย นั้นทำให้อเวอร์โรเอสกลายเป็นคนโปรดของกาหลิบอาบู ยูซุฟ จนกระทั้งพระองค์สวรรคตในปี 1184  ซึ่งการที่กาหลิบมีความสนใจงานของอริสโตเติ้ลและมักสอบถามข้อสงสัยกับอเวอร์โรเอส ทำให้ช่วงเวลานี้อเวอร์โรเอสสร้างงานเขียนที่เกี่ยวกับการวิพากษ์อริสโตเติ้ลออกมาจำนวนมาก 

1171 ได้รับตำแหน่ง  qadi (ผู้พิพากษา) ในเมืองคอร์โดว่าบ้านเกิดของเขา ซึ่งตำแหน่งนี้ทำให้อเวอร์โรเอสสามารถให้ความเห็นทางคดีตามกฏหมายอิสลามได้

1179 ได้รับตำแหน่ง qadi ในเมืองเซวิลล์ (Seville) 

1182 ได้รับตำแหน่งหัวหน้าคณะ qadi ในเมืองคอร์โดว่า ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับที่ปู่ของเขาเคยได้รับมาก่อน

1184 กาหลิบอาบู ยูซุฟ สวรรคต และกาหลิบอาบู ยากับ (Abu Yusuf Yaqub) ได้สืบทอดอำนาจต่อมา ซึ่งอวเรอ์โรเอสก็ยังได้ทำงานรับใช้ราชสำนักอยู่อีกหลายปี ก่อนที่จะถูกปลดจากตำแหน่งในปี 1195

1195 อเวอร์โรเอส ถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา โดยเฉพาะเกี่ยวกับคำสอนของเขา ซึ่งมีการเรียกร้องให้เผาหนังสือที่อเวอร์โรเอสเขียนขึ้นทั้งหมด

1198 10 ธันวาคม, เสียชีวิตในมาร์ราเกสห์ (Marrakesh)

ผลงานเขียนบางส่วน

  1. The Incoherence of the Incoherence (تهافت التهافت Tahāfut al-Tahāfut)
  2. the Kashf al-Manāhij
  3. the Faṣl al-Maqāl
  4. Kulliyāt (General Medicine)
  5. al-Kulliyat fi al-Tibb (The General Principles of Medicine)
  6. Bidāyat al-Mujtahid wa Nihāyat al-Muqtaṣid (Primer of the Discretionary Scholar)
Don`t copy text!