Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

twelve months

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงม่ายคนหนึ่ง เธอมีลูกสาวอยู่ด้วยกัน 2 คน คนหนึ่งชื่อว่า เฮเลน (Helen) เกิดกับสามีเก่าของเธอ ส่วนอีกคน มารัวคลา (Marouckla) เป็นลูกติดของสามีที่เกิดกับภรรยาเก่า  หญิงม่ายจึงมีความรักให้แก่เฮเลนมากกว่า แต่ว่าเกลียดลูกเลี้ยงของเธอ เพราะว่าลูกเลี้ยงกับสวยกว่าลูกแท้ๆ ของเธอมาก มารัวคลาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนสวย และไม่เข้าใจว่าทำไมแม่เลี้ยงจะต้องโกรธทุกครั้งเวลาที่พบหน้าเธอ มารัวคลาต้องรับหน้าที่ทำงานบ้านอย่างมาก ทั้งปัดกวาด ทำอาหาร ล้างงาน เย็บเสื้อผ้า รีดนมวัว และงานทุกอย่างภายในบ้าน เพียงลำพัง ส่วนเฮเลน ไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแต่งตัวสวย ไปนู้นนี้บ้างเท่านั้น แม้ว่ามารัวคลาจะไม่เคยปริปากบ่น แต่นั้นกลับทำให้สถานะการณ์ในบ้านรุนแรงมากขึ้น แม่เลี้ยงและพี่สาวกับใช้งานและรุนแรงกับเธอมาขึ้น  อยู่มาวันหนึ่ง แม่เลี้ยงคิดว่าควรจะไล่มารัวคลาออกไปจากบ้าน เพราะว่าขืนมารัวคลายังอยู่ เฮเลนคงจะหาชายหนุ่มที่เหมาะสมมาแต่งงานด้วยไม่ได้แน่ เพราะแม้จะทำรุนแรงกับลูกเลี้ยงทุกวิถีทางแล้ว มันกลับทำให้มารัวคลากลายเป็นคนดี ฉลาดและมีเสน่ห์มากขึ้น อยู่ว่าวันหนึ่งในกลางฤดูหนาว เฮเลน แล้งเดินร้องไห้ไปหามารัวคลา แล้วขอร้องให้เธอออกไปหาดอกไวโอเลส ในป่ามาให้เธอ มารัวคลาตอบไปว่า “ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีดอกไวโอเลนบานในหิมะเลยนะ” “นีี่เจ้าจะไม่เชื่อที่ข้าสั่งเหรอ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ออกไปหาดอกไวโอเลสมาไม่อย่างนัั้นฉันจะฆ่าเธอ” เฮเลนตะหวาด  ส่วนแม่เลี้ยงก็สนันสนุน โดยขู่ให้เธอทำตามเช่นกัน มารัวครา ต้องออกไปเผชิญชะตาในหุบเขาท่ามกลางหิมะที่ตกหนักเพียงลำพัง เธอมุ่งไปยังหุบเขา บนถนนที่มีหิมะคลุมหนาจนมองเส้นทางไม่ออก ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่โดยรอบ เวลาผ่านไปเธอรู้สึกเหนื่อยล้าและคิด เธอหลงทางเข้าไปในป่า และเมื่อเธอหมดแรงล้มลง ในใจเธอก็ภาวนาให้ตัวเองตายเสียที ทันใดนั้น เธอมองเห็นแสงปรากฏขึ้นลิบตา ทำให้เธอลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เธอมุ่งไปยังยอดเขาที่เธอเห็นแสงนั้น  และเมื่อไปถึง เธอเห้นว่ามีกองไฟใหญ่กองหนึ่ง ล้อมรอบไปด้วยแผ่นหิน 12 ก้อน และหินแต่ละก้อนนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดเป็นเจ้าของ 3 คนในนั้นมีผมสีขาว ,อีก 3 คนดูไม่แก่มากนัก ,อีก 3 คน อยู่ในวัยหนุ่มและมีใบหน้าชวนหลงไหล และที่เหลือยังดูเหมือนอายุยังน้อย พวกเขาทั้ง 12 นั่งอยู่เงียบๆ โดยจ้องมองที่กองไฟ พวกเขาคือเดือนทั้ง 12 ในหนึ่งปี โดยมกราคมนั่งอยู่ในตำแหน่งสูงที่สุด ทั้งผมและหนวดเคราของเขามีสีขาวเหมือนหิมะ ในมือของเขามีไม้เท้าอยู่อันหนึ่ง  ในตอนแรกมารัวคลารู้สึกกลัว แต่เธอรวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าไปหาพวกเขา “ท่านสิ่งมีชีวิตแห่งเทพเจ้า ขอให้ฉันได้รับไออุ่นจากกองไฟนี้หน่อยได้ไหม ฉันหนาวมากเพราะฤดูหนาว” มารัวคลาถาม มกราคม หันหน้ามามองที่มารัวครา “อะไรส่งให้เจ้ามาที่นี้ ลูกสาว? เจ้ามาหาสิ่งใดกัน? ” “ข้ามาหาดอกไวโอเลส” “ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูของดอกไวโอเลส มองไม่เห็นหรือว่ามีหิมะตกอยู่ทั่วไปหมด” มกราคม กล่าว “ฉันทราบค่ะ แต่ว่าน้องสาว เฮเลน และแม่เลี้ยงของฉันสั่งให้ฉันหาดอกไวโอเลสไปให้ไม่ได้ มิเช่นนั้นพวกเขาจะฆ่าฉัน ฉันขอร้องท่านเธอ ท่านผู้วิเศษ โปรดบอกฉันทีว่าจะหาดอกไม้นั้นได้จากที่ไหน” มกราคม เดินไปหาน้องที่อายุน้อยกว่า แล้วก็ส่งไม้วิเศษให้ พร้อมพูดว่า “มีนาคม เจ้ารับตำแหน่งสูงสุดไป” มีนาคมปฏิบัติตามด้วยความเชื่อฟัง เขารับไม้วิเศษไป จากนั้นก็ร่ายคาถา พร้อมสะบัดไม้เข้าไปในกองเพลิง ทั้นใดนั้นไฟก็ลุกสูงขึ้นไปในท้องฟ้า หิมะก็เริ่มละลายลงไป ต้นไม้แตกใบอีกครั้ง หญ้ากลับมาเขียวขจี และมีดอกไว้โอเลสบานขึ้นมา “ไปเก็บมันมาเร็ว” มีนาคม บอกมารัวคลา หลังจากนั้นมารัวคลาก็รีบเอากลับไปที่บ้าน “เจ้าไปเจอมันที่ไหน” เฮเลนถาม “อยู่ในหุบเขาด้านหนึ่ง” มารัวคลาตอบ เฮเลนเอาดอกไม้เก็บไว้เองสำหรับเธอและแม่เท่านั้น โดยไม่ได้ไตร่ถามถึงความลำบอกของมารัวคลาแม้แต่น้อย พอในวันต่อมา เฮเลนก็สั่งให้มารัวคลา ออกไปหาสตอเบอรี่มาให้ “ฉันต้องการสตอเบอรี่ เอาที่สดและหอมหวานนะ” เฮเลน สั่ง แม่เลี้ยงไม่ได้พูดอะไรก็เดินมาผลักมารัวคลาออกไปหน้าประตู และปิดประตูใส่  มารัวคลามุ่งไปที่หุบเขาอีกครั้ง คราวนี้เธอเห็นมกราคม นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานอีกครั้ง “ท่านแต่เทพเจ้า ข้าขอไฟจากท่านเพื่อดับความหนาวอีกครั้ง ได้โปรดบอกฉันที ว่าจะหาผลสตอเบอร์รี่ได้จากที่ไหน แม่เลี้ยงฉันต้องการมิอย่างนั้นนางจะฆ่าฉัน"  มกราคม ลุกขึ้นเดินตรงข้ามกองไฟไปยังน้องชายมิถุนายน แล้วส่งไม้เท้าวิเศษให้ มิถุนายน ใช้ไม้เท้าไกวผ่านเปลวไฟ ทันใดนั้นไฟก็ลงฟุ่งสูงไปในท้องฟ้า น้ำแข็งละลายหายไป ต้นไม้กลับผลิใบเต็มต้นอีกครั้ง ดอกไม้นานาพันธ์บานสะพรั้ง และนกต่างขับร้อง ต้นไม้ที่มีใบเหมือนดาวแฉก ก็เปลี่ยนดอกตัวเองให้กลายเป็นผลสตอเบอรรี่ มารัวคลารีบเดินไปเก็บผลไม้ และมุ่งกลับบ้าน เฮเลนประหลาดใจที่มารัวคลานำสตอเบอรี่กลับมาได้อีก เธอรับผลไม้ไว้ทานเองจนหมด แล้ววันต่อมาก็สั่งให้มารัวคลาออกไปหาแอปเปิ้ลมาให้ มารัวคลากลับไปยังหุบเขาแห่งเดิมอีกครั้ง คราวนี้มกราคม ส่งไม้คฑาให้แก่กันยายน เมื่อกันยายนแกว่งไม้ไปในกองไฟ หิมะก็ละลาย ต้นไม้ต่างสลัดใบของมันจนร่วงลงเหมือนฤดูใบไม้ร่วง  มารัวคลาวิ่งไปที่ต้นแอปเปิ้ลแล้วเขย่าให้ผลมันร่วงลงมา เมื่อได้จำนวนมากพอแล้วเธอก็กลับไปบ้าน ครั้งนี้เฮเลนต่อว่ามารัวคลามาเอาแอปเปิ้ลมาน้อยเกินไป "เจ้ากินแอปเปิ้ลไประหว่างทางใช่ไหม ทำไมถึงมีผลแอปเปิ้ลเพียงเท่านี้” เฮเลน ต่อว่า “ฉันเขย่าต้นมันถึงสองครั้ง ท่านเทพบอกให้ข้ารีบกลับบ้าน ข้าจึงไม่อาจเขย่าได้อีก” มารัวคลา พยายามบอกเหตุผล “ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะเขย่าต้นแอปเป้ิล เก็บมันมาให้หมด แม้ว่าจะมีใครบอกให้หยุดก็ตาม” เฮเลน พูด “ฉันจะไปเก็บแอปเปิ้ลเอง ฉันจะหาต้นแอปเปิ้ลและหุบเขานั้นเอง” จากนั้นเฮเลนก็สวนเสื้อคลุมกันหนาว และหมวกไหมพรหมของดีเพื่อให้ความอบอุ่น ก่อนที่จะออกจากบ้านมุ่งสู่ภูเขา  หิมะปกคลุมไปทั่ว เฮเลนหลงทางไปในป่า จนกระทั้งเธอเห็นแสงไฟข้างหน้าเธอ เธอเดินตามแสงไฟนั้นไป จนถึงยอดเขา ที่นั้นมีกองไฟอยู่อันหนึ่ง ก้อนหินสิบสองก้อน และสิ่งมีชีวิตที่ดูประหลาด 12  เดือน ในตอนแรกเธอรู้สึกกลัว แต่ก็ตัดสินใจเข้าไป มกราคม หันมาถามด้วยความอ่อนโยนว่า “อะไรนำเจ้ามาที่นี่ เจ้าต้องการสิ่งใด” “ทำไมฉันต้องบอกท่าน มันกงการอะไร เจ้าเคราแก่” เฮเลนตอบ แล้วเธอก็เดินหันหลังกลับจากกองไฟมุ่งไปยังป่าอีกรอบ มกราคม ยกไม้วิเศษขึ้นสะบัดเหนือหัว ทันใด ท้องฟ้าก็มืดครี้มด้วยเมฆหนา และหิมะก็ตกอย่างหนัก พายุน้ำแข็งกระหนำไปทั่วขุนเขา ในขณะที่บ้าน แม่เลี้ยงรอว่าเมื่อไหร่ลูกสาวจะกลับมา เธอคิดในใจว่า “รึ ลูกสาวจะพบแอปเปิ้ลมากมายจนไม่ยอมกลับบ้าน” แม่เลี้ยงสวนเสื้อคลุมและเดินฝ่าเข้าไปท่ามกลางหิมะและพายุ สุดท้ายแล้วเธอก็เหนื่อยอ่อน หมดแรงและหิว เวลาผ่านไปมารัวคราได้แต่ทำงานอยู่ลำพัง และเฝ้าภาวนา และรอคอยการกลับมาของแม่เลี้ยงและน้องสาว แต่พวกเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย ภายนอกบ้านตอนนี้กลับเป็นทุ่งหญ้าอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป มีวัวบังเอิญหลงมา ทำให้มารัวคลาเลั้ยงเอาไว้ อยู่มาวันหนึ่งก็มีชายหนุ่มเป็นชาวไร่เดินทางผ่านมาพบเธอ ทั่งคู่จึงใช้ชีวิิตร่วมกันอย่างมีความสุข

 

Don`t copy text!