เยโรฟีย์ ปาฟโกวิช คาบารอฟ, (สเวียทิชกี) (Ерофей Павлович Хабаров(Святицкий))
พ่อค้าและนักสำรวจผู้บุกเบิก ดินแดนลุ่มแม่น้ำอาเมอร์
เกิดในครอบครัวชาวนา ในเมืองเวลิกี อุตยัก (Veliky Ustyag) ทางตอนเหนือของรัสเซีย แม้ว่าครอบครัวจะมีฐานะยากจน แต่ก็คล้ายกับชาวนาคนอื่นๆ ในเมือง ที่หันไปทำการค้าขายด้วย คาบารอฟ เริ่มอาชีพของเขาโดยการทำงานในร้านขายเกลือ ของตระกูลสโตรโกนอฟ (Strogonov)
1625 เขาเดินทางค้าขายร่วมกับพี่ชาย โดยล่องเรือจากเมืองโตบอลส์ก (Tobolsk) ในไซบีเรียตอนใต้ ไปยังเมืองศูนย์กลางการค้าแมงกาเซย่า (Mangazeya) ซึ่งอยู่ตะวันออกของเทือกเขาอูราล ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสายทรานอูราน ในศตวรรษที่ 16-17
1632 คาบารอฟ แยกตัวออกมาากครอบครัว และเดินทางล่องไปตามแม่น้เลน่า (Lena river) เพื่อหาที่อยู่ ออกล่าสัตว์เพื่อเขาขนและเนื้อมาขาย และเขายังทำเกลือขายด้วย นั้นทำให้เขาร่ำรวยจากการค้าเกลือและขนสัตว์เป็นอย่างมาก แต่ว่าอาจเป็นเพราะต้องการกำไรที่มากขึ้นทำให้เขาพยายามบุกเบิกดินแดนที่ยังไม่มีคนไปถึงอาศัย
1639 เขาเปิดเหมืองเกลือแห่งหนึ่งบริเวณปากแม่น้ำกุต้า (Kuta river) ปัจจุบันอยุ่ใจเขตเออกุตส์
1641 คาบารอฟ ถูกเจ้าเมืองยากุต (Yakutsk) ชื่อ ปีเตอร์ โกโลวิน (Peter Golovin) กลั่นแกล้ง โดยตอนแรกเรียกเอาภาษีสูงขึ้น แต่ต่อมาก็ยึดเอาสมบัติของคาบารอฟไป และจับเขาขังคุก จนถึงปี 16451648 เจ้าเมืองยากุตส์ก คนใหม่ ดมิทรี ฟรานต์สเบกอฟ (Dmitri A. Frantsbekov) ให้เงินทุนสนับสนุนแก่คาบารอฟ พร้อมกำลังทหารในการบุกสำรวจดินแดนใหม่ ที่ชาวดัวร์ (Daur) อาศัยอยู่
1649 การออกเดินทางไปยังดินแดนใหม่ ครั้งแรกของเขา เขาเริ่มออกสำรวจเขตลุมแม่น้ำอาเมอร์ (Amur) จากยากุตส์ก โดยใช้เส้นทางย้อนไปตามแม่น้ำอัลดาน (Aldan river) เขาเดินทางกลับเมืองยากุสต์ ในเดือนพฤษภาคม 1650 ในการสำรวจครั้งนี้ เขาได้ทำแผ่นที่ขึ้นมาด้วยซึ่งนั้นกลายเป็นแผนที่บริเวณเขตอาร์เมอร์ครั้งแรกที่ยุโรปมี
1650 เริ่มการบุกเบิกดินแดนครั้งที่ 2 (1650-1653) หลังจากการสือสารกับทางมอสโคว์ล่าช้า ทำให้ผู้ว่าเมืองยากุสต์ วอย์โวด์ ฟรานต์เบกอฟ (Voivode Frantsbekov) ตัดสินใจเอง โดยสั่งให้คาบารอฟเดินทางมุ่งลงใต้ พร้อมกำลังกำลังทหารขนาดใหญ่เพื่อสำรวจดินแดน นอกจากนั้นวอย์โวด์ ยังได้ส่งหนังสือของพระเจ้าซาร์ อเล็กซีย์ ไปยัง เจ้าชายลาฟเกีย (Prince Lavkai) ของชาวดัวร์ (Daur) และอีกฉบับส่งให้ เจ้าชาย บ็อกดอย (Prince Bogdoi) ให้พวกเขายอมสวามิภักดิ์ต่อมอสโคว์ ไม่อย่างนั้นจะส่งกำลังทหารไปปราบ ซึ่งความจริงแล้ว เจ้าชาย บ็อกดอย ไม่ใช่ชนเผ่าในไซบีเรียอย่างที่วอย์โวด์ เข้าใจ แต่ว่าเป็นเจ้าชายคังซี แห่งจีน (คังซี ครองราชย์ ปี 1661) คาร์บารอฟข้ามเทือกเขายูราล ประมาณฤดูใบไม้ผลิด ตอนนั้นคาบารอฟเขียนจดหมายถึงวอย์โวด์ ถึงดินแดนที่พบใหม่บริเวณลุ่มน้ำอาเมอร์ว่า “มีชนเผ่าดัวร์ตั้งถิ่นฐานอยู่ พวกเขาทำปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ แม่น้ำอาเมอร์มีปลาสเตอร์เจี้ยนเต็มไปหมด ต้นไม้สูงใหญ่จนมืดสนิท ปลามากมายไม่เคยเห็นในแม่น้ำโวลก้า” ตอนนั้นเขาต้องเผชิญกับการต่อต้านจากพวกดัวร์ เขาต้องตั้งค่ายบริเวณอัลบาซิน (Albazin) ตอนเหนือสุดของแม่น้ำอาเมอร์ รอให้กำลังเสริมมาถึงในมิถุนายน 1961
1651 กันยายน เขาเดินถึงปากแม่น้ำซันการิ (Sungari mouth) เขาเกือบจะทำสงครามกับประเทศจีน เมื่อเดินทางลึกไปทางใต้เรื่อยๆ เลยเขตที่ชนเผ่าดัวร์ อาศัยอยู่ มันกลายเป็นดินแดนที่ประเทศจีนอ้างกรรมสิทธิ และชนเผ่าดัวร์ ก็ร้องขอความช่วยเหลือจากจีนให้เข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้นราชวงศ์แมนจูของจีน เพ่งมีอำนาจได้ไม่ได้นาน ก็ได้ส่งทหารกว่า 2,000 นายเข้าโจมตีกองกำลังของคาบารอฟ ในเมือง เอชานส์ (Achansk) ในเดือนมีนาคม 1652 ตอนแรกเขาพยายามที่จะต่อสู้ แต่ว่าเมื่อไม่ทราบกำลังที่แท้จริงของฝ่ายข้าศึก ทำให้ 22 เมษายน ต้องตัดสินใจถอยหนีกลับมา แต่ก็ยังเจอกับการโจมตีจากทหารแมนจูอีกหลายพันคน แต่สุดท้ายก็สามารถเอาตัวรอดออกมาได้
สิงหาคม 1652 เขากลับมาถึงยั่งปากแม่น้ำเซย่า (Zeya) ซึ่งที่นี เขาได้เขียนรายงานเหตุการณ์การต่อสู้กับจีนและพวกดัวร์ ส่งให้กับวอย์โวด์ เจ้าเมืองยากุตส์ก ต่อมาคาบารอฟถูกกล่าวหาจาก ดมิทรี ไซนอฟเยฟ ( Dmitry Ivanovich Zinovyev , Дмитрий Иванович Зиновьев) ซึ่งเพิ่งจะได้รับแต่งตั้งจากพระเจ้าซาร์อเล็กซี (Tsar Aleksey Mikhilovich) ให้เป็นผู้ว่าการคนใหม่ของยากุตส์ก ว่าเขียนรายงานที่เป็นเท็จ สร้างเรื่องโกหกขึ้นมา และไม่จงรักภักดีต่อชาติทั้งยังล่าถอยในสงคราม ในที่สุดทำให้ถูกตัดสินยึดทรัพย์ และจะต้องถูกส่งตัวไปยังมอสโคว์เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม
1954 ไซนอฟเยฟและคาบารอฟ มาถึงยังมอสโคว์ หลังจากใช้เวลาเดินทางกว่า 15 เดือน คาบารอฟ ได้เขียนฏีกา ถึงพระเจ้าซาร์อเล็กซี โดยตรง และอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งซาร์มีแนวโน้มเชื่อในเรื่องที่เขาอธิบาย และได้ทรงตัดสินว่าคาบารอฟไม่มีความผิด และให้คืนทรัพย์สินทุกอย่างแก่เขา นอกจากนั้นยังทรงประทานตำแหน่งยศโบยาร์ (Boyar) ให้แก่คาบารอฟ ด้วย นอกจากนั้นเขายังได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองหลายแห่งในริมแม่น้ำเลน่า คาบารอฟ เคยตั้งใจที่จะออกสำรวจดินแดนใหม่อีกครั้ง แต่ว่าหลังจากนั้นไม่เคยได้รับประทานอนุญาตอีกเลย
1671 เขาใช้ชีวิตปั่นปลายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมแม่น้ำอาเมอร์ จนกระทั้งเสียชีวิตในปี 1671 อายุ 70 ปี