ไอแซ็ค บาเบล (Исаак Эммануилович Бабель)
นักเขียนเจ้าของผลงานเรื่อง Red Cavalry , Odessa Tales
ชื่อจริงของเขาคือ ไอแซ็ค เมเนียวิช โบเบล (Isaac Manievich Bobel) เขาเกิดในโอเดสสา (Odessa) ในครอบครัวพ่อค้าที่ขายเครื่องมือทางการเกษตร ในวันที่ 13 กรกฏาคม 1894 พ่อของเขาชื่อมานุส (Manus) ส่วนแ่ชื่อว่าเฟย์กา (Feyga) ครอบครัวของเขาโชคดีที่สามารถผ่านพ้นเหตุการณ์รุนแรงในปี 1905 ในโอเดสสา ที่มีการปลุกระดมให้มีการทำร้ายคนกลุ่มน้อยมาได้ แต่ว่าปู่ของเขาเป็นหนึ่งในชาวยิวกว่า 300 คนที่เสียชีวิตเพราะถูกทำร้าย
บาเบล ต้องการเข้าเรียนที่วิทยาลัยพาณิชย์แห่งโอเดสสา (Odessa comercial college of Nicholos I) ซึ่งเขาต้องใช้โควต้านักศึกษาชาวยิว ซึ่งตัวเขาเองมีคะแนนสูงพอที่จะเข้าเรียนได้ แต่ปรากฏว่าโควต้าของเขากับถูกให้กับนักเรียนคนอื่นไปเพราะว่าพ่อแม่ของนักเรียนคนนั้นจ่ายเงินสินบนให้กับผู้บริหารโรงเรียน นั้นทำให้บาเบลไม่ได้เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้และไปใช้วิธีการเรียนอยู่ที่บ้านแทน ซึ่งเขาสามารถเรียนหลักสูตร 2 ปี จบภายในเวลาปีเดียว โดยที่เขายังสนใจเรียนวิชาดนตรี และวิชา Talmud (การศึกษาเกี่ยวกับคำสอนของศาสนายิว) นอกจากนั้นเขายังมีความสามารถในการพูดได้หลายภาษา ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และฮิบรู
นิยายที่เขาเขียนเป็นครั้งแรกนั้นเขาเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส
หลังจากนั้นเขาได้เข้าเรียนที่ Kiev Institute of Finance and Business จนกระทั้งจบปริญญาเอกทางด้านเศรษฐศาสตร์ ในปี 1915 ระหว่างที่เรียนที่สถาบันแห่งนี้เองเขาได้รู้จักกับภรรยาของเขา เธอชื่อว่า เยฟกีเนีย กรอนเฟียน (Yevgenia Borisovna Gronfien) เธอเป็นลูกสาวของเจ้าของโรงงานที่ร่ำรวย
หลังเรียนจบไม่นานบาเบล ก็เข้าเรียนต่อด้านกฏหมาย ที่ Petrograd Psycho-neurologic University ซึ่งทำให้เขาได้รับสิทธิในการอาศัยในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และระหว่างอยู่ในเมืองนี้เขาจึงได้รู้จักกับแม็กซิมกอร์กี ซึ่งกอร์กี้นำเอาผลงานเขียนของบาเบลบางเรื่องไปตีพิมพ์ในแม็กกาซีน Letopis (Летописть) ของเขา
1917 ระหว่างการปฏิวัติรัสเซียในปี 1917 เบเบลเล่าว่าเขาเป็นทหารอยู่ในกองทัพจนกระทั้งเดือนธันวาคม หลังจากนั้นในปีถัดมา มีนาคม เขาได้ทำงานเป็นนักข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ Novaya zhinza (Новая жизнь) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของกอร์กี แต่ว่าพอเดือนกรกฏาคม เลนินก็มีคำสั่งให้ปิดตัวหนังสือพิมพ์ลง
1918-1921 ในช่วงสงครามกลางเมืองในรัสเซีย บาเบลทำงานให้กับสำนักพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ Odessa Gubkom และทำงานให้กับกระทรวงศึกษาธิการ
(1919) เขาได้แต่งงานกับเยฟกีเนีย ในวันที่ 9 สิงหาคม
(1920) เกิดสงครามระหว่างโซเซียตและโปแลนด์ บาเบลเข้าทำงานนักข่าวและทหารให้กับกองทหาร 1st Calvary Army ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหนังสือของเขา ,
หลังจากสงครามกลางเมืองแล้ว ได้ทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ภาษารัสเซีย The Dawn of the Orient (Заря Востока) ซึ่งตีพิมพ์ในกรุงทบิลิซี จอร์เจีย
1924 เริ่มมีผลงานเขียนเรื่องสั้นพิมพ์ออกมาก อย่างเรื่อง Salt, The Letter, The King ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมารวมเล่มกันชื่อ The Red Cavalry(Конармия) ซึ่งแบ่งออกเป็นสองเล่ม ตีพิมพ์ในปี 1926
1925 ชีวิตแต่งงานของเขาไม่ราบรื่น เมื่อเยฟกีเนีย มีความเกลียดชังคอมมิวนิสต์ ทำให้เธอเดินทางไปอาศัยอยู่ในปารีส แต่พวกเขายังมีโอกาสพบกันบ่อยครั้งที่บาเบลเดินทางไปปารีส หลังจากนั้นบาเบลจึงได้มีความสัมพันธ์กับหญิงคนใหม่ ชื่อทามาร่า (Tamara Kashirina) จนมีลูกชายด้วยกัน ชื่อ เอ็มมานูเอล (Emmanuil Babel) ซึ่งเอ็มมานูเอล ถูกเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมของ วเชโวโรด อิวานอฟ (Vsevolod Ivanov) ทำให้เขาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นมิคาอิล อิวานอฟ (Mikhail Ivanov) มีอาชีพเป็นนักเขียน
1929 หลังจากแยกทางกับทามาร่าแล้ว บาเบลกลับไปคืนดีกับเยฟกีเนีย จนกระทั้งมีลูกมีลูกสาวด้วยกันชื่อนาตาเลีย (Nathalie Babel Brown) ต่อมาเธอทำงานเป็นบรรณาธิการและดูแลงานเขียนของบาเบล พ่อของเธอ
1931 The Odessa Tales(Одесские рассказы) ถูกพิมพ์ มันเป็นผลงานรวมเรื่องสั้นที่เขาเขียนตั้งแต่ 1923 เช่นกัน แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเมืองโอเดสส่า การปฏิวัติ
1932 บาเบลมีความสัมพันธ์กับหญิงคนใหม่ ชื่อแอนโตนิน่า (Antonina Pirozhkova) หลังจากบาเบลไม่สามารถโน้มน้าวให้เยฟกีเนีย เดินทางกลับมาอาศัยในรัสเซียได้ แอนโตนิน่า เป็นคนจากเผ่าพื้นเมืองในไซบีเรีย พวกเขาสองคนแต่งงานกันอย่างถูกกฏหมายในปี 1939 และมีลูกสาวด้วยกันชื่อ ลิเดีย (Lydia Babel)
1939 เขาถูกจับในเดือนพฤษภาคม ในข้อหาว่าให้การสนับสนุนทร็อตสกี และเป็นสายลับให้ฝรั่งเศสและออสเตรีย ซึ่งระหว่างที่ถูกจับทำให้ผลงานาของเขาจำนวนมากถูกยึด และสูญหายไป
1940 เขาถูกตัดสินประหารชีวิต ในวันที่ 27 มกราคม 1940
1954 ข้อหาที่บาเบลถูกตั้งและตัดสินลงโทษน้นถูกยกเลิกไป ลูกสาวของบาเบล นาตาเลีย ซึ่งไปอาศัยในอเมริกาจนได้สัญชาติ เป็นคนที่คอยรักษาและตีพิมพ์ผลงานของพ่อของเธอ ซึ่งในปี 2002 เธอได้พิมพ์หนังสือ The Complete Works of Isaac Babel ที่มีงานเขียนหลายชิ้นที่ไม่เคยถูกตีพิมพ์ออกมา