Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Nikolay Makarov

นิโคไล เฟียโดโนวิช มาการอฟ (Николай Фёдорович Макаров)

ผู้ประดิษฐ์ปืนพก ยี่ห้อ Makarov
เขาเกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1914 ในเมืองเล็กๆ ชื่อซาโซโว (Sasovo) เรียซาน (Ryazan) ห่างจากมอสโคว์ไปราว 100 ไมล์ พ่อของเขาเป็นกรรมกรสร้างทางรถไฟ มีฐานะที่ยากจนมาก และยิ่งเมื่อเกิดสงครามกลางเมืองในประเทศ ระหว่างปี 1918-1921 เมืองทั้งเมืองก็เหมือนซากปรักพัง 
หลังจากเขาเรียนจบชั้น ป.5 แล้วก็สมัครเรียนอาชีวะ เพื่อที่จะทำงานเป็นพนักงานรถไฟเหมือนกับพ่อ
หลังจากเรียนจบ เขาได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองซาโซโว และทำงานเป็นช่างในโรงงานรถไฟที่เดียวกับพ่อ 
1936 ตอนอายุ 22 สมัครเข้าเรียนที่สถาบันเครื่องกลเมืองตุลา (Tula Mechanical Instutute) ซึ่งเป็นสถาบันแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในการประดิษฐ์เครื่องจักรของประเทศเวลานั้น
1941 ก่อนที่มาการอฟจะทำวิทยานิพนธ์ปีสุดท้ายเสร็จ ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น ทำให้เขาได้รับปริญญาด้านวิศวะกรรมเลย และถูกส่งมาทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งใกล้กับมอสโคว์ ซึ่งหลังจากนาซีบุกเข้ามาใกล้มอสโคว์แล้ว โรงงานก็ถูกย้ายไปอยู่ในเมืองวีแยตสกี โปลยานี (Vyatskie Polyany) ห่างออกไปจากมอสโคว์ถึง 700 ไมล์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่โรงงานแห่งนี้ ส่วนใหญ่รับผิดชอบการผลิตปืนกลมือ PPSh (submachine gun) ซึ่งใช้แม็กกาซีน(ที่ใส่กระสุน) แบบกลม มาการอฟ เริ่มทำงานเป็นหัวหน้าคนงาน แต่ว่าไม่นานก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าผู้ออกแบบ แต่ว่ายังอยู่ภายใต้การดูแลของ จอร์จี ชปากิน (Georgy Shpagin) ซึ่งเป็นผู้ออกแบบ PPSh
1944 สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเครื่องกลเมืองตุลา อย่างสมบูรณ์ เมื่อได้รับอนุญาตให้กลับเข้าไปทำวิทยานิพนธ์จบอีกครั้ง
1951 ปืนพกสั้น Makarov PM (Пистолет Макарова) ถูกใช้เป็นปืนพกมาตรฐานสำหรับเจ้าหน้าที่ทหารในโซเวียต ซึ่งมันยังคงถูกใช้มาจนปัจจุบัน ปืนรุ่นนี้ มาการอฟ พัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทนปืนพกกึ่งอัตโนมัติรุ่น TT-33 และปืนลูกโม่ Nagant M1895 ที่ใช้อยู่ในโซเวียตเวลานั้น  PM นั้นใช้กระสุนขนาด 9*18 ม.ม. ซึ่งเขาเลือกใช้กระสุนขนาดเท่ากับปืนพกที่ทหารอากาศของเยอรมันใช้อยู่เวลานั้น  แต่ว่าลำกล้องมีความสั้นกว่า และตัวปืนกว้างกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้กระสุนของโซเวียตกับปืนของตะวันตก  นอกจากนั้นยังสร้างได้ง่ายในราคาที่ประหยัด เพราะปืนใช้ช้ินส่วนเพียง 27 ชิ้น เทียบกับปืน Walther ซึ่งมีช้ินส่วนถึง 42 ชิ้น
1953 เขาออกแบบปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน AM-23 โดยทำงานร่วมกับ นิโคไล อฟานาสเยฟ (Nikolay Afanasyev) ซึ่งเป็นผลงานที่ทำให้เขาได้รับรางวัล Hero of Socialist Labor
1962 มิสไซล์ 9K111 Fagot ที่มาการอฟ ออกแบบถูกผลิตขึ้น มันเป็นจรวดมิสไซล์ต่อต้านรถถัง ที่จรวดถูกเก็บไว้ในท่อรูปทรงกระบอก ทำให้ทหารสองสามคนสามารถยกได้  นอกจากนี้ยังมีระบบนำร่องแบบใช้สาย (wire-guided SACLOS)
1974 ก่อนจะเกษียณอายุ เขาแนะนำจรวดมิสไซล์ต่อต้านรถถังรุ่นใหม่ 9M-111 Konkurs ออกมาก ซึ่งมันต่างจากมิสไซล์รุ่นเดิมของเขา อันใหม่นี้สามารถใช้ทหารหรือติดตั้งกับรถถังได้  ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัล Hero of Socialist Labor เป็นครั้งที่ 2
 ภรรยาของมาการอฟ ชื่อ นาเดชด้า (Nadezhda) พวกเขาแต่งงานอยู่ด้วยกันมากว่า 44 ปี , มาการอฟ เป็นคนนิ่งเงียบและเก็บความลับ เขาไม่ค่อยจะเดินทางไปไหน และมักไม่เป็นที่รู้จักของคนต่างชาติ แม้แต่คนโซเวียตเอง เขาอาศัยอยู่ในเมืองตุล่า หลังเกษียณ ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยประธานในสภาของเมืองตูล่า  และชอบการตกปลา
1998 เสียชีวิตในวัย 73 ปี โดยอาการหัวใจวาย , เขาถูกฝั่งที่สุสานประจำเมืองตุล่า 
Don`t copy text!