Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Symon Petliura

ไซม่อน เพทลูร่า (Симон Васильевич Петлюра)

  หนึ่งในผู้ต่อสู้เพื่อเอกราชของยูเครน

เพทลูร่าเกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 1879 ในโปลตาว่า, ยูเครน (Poltava, Ukraine) ส่วนหนึ่งของรัสเซียในขณะนั้น พ่อและแม่ของเขขาเป็นคอสแซ็ค พ่อชื่อว่าวาซิล (Vasyl Petliura) และแม่ชื่อ โอลฮ่า (Olha Marchenko) พวกเขาเป็นเกษตรกรที่มีฐานะดี 

1895 เข้าเรียนที่โรงเรียนของนิกายรัสเซียออโธดอกซ์ (Russian Orthodox Seminary) ในโปลตาว่า 

1898 เข้าร่วมกับพรรคปฏิวัติแห่งยูเครน (Ukrainina Revolutionary Party) ที่มีแนวคิดแบบซ้าย

1901 เพลลูร่าถูกไล่ออกจากโรงเรียนหลังทางการทราบว่าเขาเป็นสมาชิกของพรรคปฏิวัติแห่งยูเครน หลังจากนั้นเขาพยายามหลบหนีการจับกุมไปยังเมืองคูบาน (Kuban) และทำงานสอนหนังสืออยู่ได้สองปี 

1903 ธันวาคม, ถูกทางการจับตัวเอาไว้ในข้อหาเผยแพร่เอกสารหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของซาร์

1904 มีนาคม, ได้รับการปล่อยตัว หลังจากนั้นเขาจึงเดินทางเมืองลีฟ (Lviv) โดยใช้ชื่อปล่อมว่าสเวียโตสลาฟ (Sviatoslav Tagon)  เมืองลีฟขณะนั้นอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี 

เขาทำงานกับนิตยสาร Literary-Scientific Collection และ Volley

1905 หลังมีการประกาศกฤษฏีกาอภัยโทษ เพทลูร่าได้เดินทางเข้าไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมืองหลวงขณะนั้น โดยพยายามที่จะพิมพ์แม็กกาซีน Free Ukraine ออกมาแต่ว่าไม่นานหนังสือถูกทางการปิดไป เขาจึงกลับมายังเคียฟ และเข้าทำงานกับแม็กกาซีน Rada (Радa) และช่วงปี 1907-1914 ยังทำงานให้กับหนังสือหลายฉบับ อย่างแม็กกาซีน  Ukraine (Україна) , Word (Слово), World (Мир) และ Education (Образование) ทำให้เขากลายเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงพอสมควร

1909 แต่งงานกับโอลฮา บิลส์ก้า  (Olha Bilska) และมีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อเลเซีย (Lesia)

1916 ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 1 เข้าทำงานกับเซมกอร์ (Zemgor , All-Russian Unions of Zemstvos and Cities) เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยจัดหายุทธปัจจัยให้กับรัฐบาลรัสเซีย

1917 เมื่อเกิดการปฏิวัติในรัสเซีย และขยายเข้าไปถึงพื้นที่ยูเครน 

18 พฤษภาคม, ในยูเครนได้มีการจัดตั้งกรรมาธิการการทหารแห่งยูเครน (Ukrainian General Military Committee) มีเป้าหมายเพื่อจะยึดอำนาจทางทหารของกองทัพที่อยู่ในพื้นที่ยูเครน โดยที่ไม่รับอำนาจของรัฐบาลเฉพาะกาลในรัสเซีย  เพทลูร่าได้เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการในชุดนี้ด้วย

28 มิถุนายน, มีการตั้งสภากล่างแห่งยูเครน (Central Council of Ukraine) ซึ่งเพทลูร่าได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมคนแรก

7 พฤศจิกายน, ยูเครนประกาศตัวเป็นสาธารณรัฐ (Ukrainian People Republic) 

ต่อมาเขามีปัญหากับนายกรัฐมนตรีวินนีเชนโก้ (Volodymyr Vynnechenko) จึงได้ลาออกจากรัฐบาลและได้เข้าร่วมกับกองกำลังกอบกู้อิสรภาพยูเครน (Sloboda Ukraine) ที่ต่อสู้กับกองทัพแดง

1918 22 มกราคม, ยูเครนประกาศอิสรภาพจากรัสเซีย

เมษายน , สโกโรปาดสกี้ (Pavlo Skoropadskyi) ทำการปฏิวัติ และเพทรูล่าถูกจับตัวขังไว้ราวสี่เดือนก่อนได้รับการปล่อยตัว

13 พฤศจิกายน, เพทรูล่านำประชาชนก่อจราจลขับไล่สโกโรปาดสกี้จนต้องหนีออกนอกประเทศ  ระหว่างนั้นได้มีการตั้งคณะปกครองแห่งยูเครน (Directorate of Ukraine) ขึ้นมาทำหน้าที่ และเพทรูล่าได้ตำแหน่งผู้นำด้านกลาโหม ซึ่งพวกเขาต้องรบกับทั้งกองทัพแดงและกองทัพขาว

1919 ที่ทำการของคณะปกครองแห่งยูเครนต้องย้ายไปยังเมืองโปโดลี (Podolie) หลังจากกองทัพแดงยึดกรุงเคียฟและพื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครนเอาไว้ได้ จนกระทั้งปลายปีเขาต้องหนีไปยังโปแลนด์เมื่อกองทัพแดงยึดพื้นที่เกือบทั้งหมดของประเทศไปได้ แต่ว่าเขายังอ้างฝ่ายตัวเองว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องของยูเครนอยู่

1920 Alliane in Warsaw, เพทรูล่า ทำข้อตกลงกับโปแลนด์ โดยยอมรับว่าดินแดนกาลิเซีย (Galicia) เป็นของโปแลนด์ เพื่อแลกกับการที่โปแลนด์จะช่วยส่งทหารมารบกับกองทัพแดง 

7 พฤษภาคม, โปแลนด์บุกมาถึงเคียฟ 

แต่ว่าไม่นานกองทัพรัสเซียสามารถรุกกลับได้และโปแลนด์ต้องถอยกลับไป เพทรูล่าเองลี้ภัยอยู่ในโปแลนด์หลายปี

1923 เขาออกจากโปแลนด์ไปยังฮังการี 

1924 มาอาศัยอยู่ในกรุงปารีส และทำหนังสือพิมพ์ภาษายูเครน Trident (Tryzub) 

1926 25 พฤษภาคม, เพทรูล่าถูกยิงจนเสียชีวิตโดย โชลอม ชวาร์ตบาร์ด (Sholom Schwartzbard) ระหว่างที่เดินอยู่บนถนนในปารีส  ชวาร์ตบาร์ดเป็นนักอนาธิปไตยเชื้อสายยิว-รัสเซีย แต่ว่าสนับสนุนแม็กโน่ (Nestor Makhno นักอนาธิปไตยยูเครน) ชวาร์ตบาร์ดไม่พอใจที่ระหว่างที่เพทรูล่ามีอำนาจในยูเครนนั้นทหารของเขาได้สังหารชาวยิวมากมาย ทั้งที่เคยสัญญาว่าหากยูเครนมีอิสรภาพ ชาวยิวจะได้ปกครองตัวเองและมีฐานะเท่ากับประชาชนคนอื่น

Don`t copy text!