คาร์ล โพลันยิ (Karl Paul Polanyi)
ผู้เขียน The Great Transformation
โพลันยิ เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1886 ในกรุงเวียนนา, อาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี (Vienna, Austrian-Hungarian Empire) ครอบครัวของเขาเป็นยิว พ่อของเขาชื่อมิฮาลี (Mihaly Pollacsek) เป็นวิศวะกรชาวฮังการีและทำธุรกิจรถไฟ และแม่เป็นชาวรัสเซีย ชื่อว่าซีซิเลีย (Cecilia Wohl) เขามีน้องชายหนึ่งคนชื่อไมเคิ้ล (Michael Polanyi) ซึ่งภายหลังเป็นนักปรัชญา
โพลันยีเริ่มเรียนหนังสือพื้นฐานอยู่ที่บ้าน และต่อมาได้เข้าเรียนที่มินตาจิมเนเซียม (Minta Gymnasium)
เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยบูดาเปสต์ (University of Budapest)
1908 ระหว่างที่เรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย โพลันยีได้ร่วมก่อตั้งกลุ่มกาลิเลอี (Galileo Circle~ Galilee Kor) กลุ่มของนักศึกษายิวที่มีแนวคิดแบบหัวรุนแรง และเขายังได้เป็นประธานของกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางวัฒนธรรม (Hungarian cultural movement)
กลุ่มกาลิเลโอ ได้ก่อตั้งวารสาร Szabadgondolat ซึ่งโพลันยีรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการจนกระทั้งปี 1919 วารสารก็ถูกบังคับให้ปิดตัวไป
1909 จบปริญญาเอกทางด้านกฏหมายจาก ม.บูดาเปสต์ หลังจากเรียนจบเขาได้ทำงานเป็นเสมียนในสำนักงานกฏหมายของลุงของเขา
1914 เขาเข้าเป็นทหารม้าในกองทัพออสเตรีย-ฮังการี ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 1 ซึ่งได้รบกับแนวรบด้านรัสเซีย และต่อมาเขาก็ล้มป่วยอย่างหนักจากไทฟอยด์จนกระทั้งถูกส่งเข้าโรงพยาบาลในบูดาเปสต์
1919 เบลา คุน (Bela Kun) ปฏิวัติล้มรัฐบาลของมิฮาลี คารอลยี (Mihaly Karolyi ) ของฮังการีได้ และเบลา คุน เปลี่ยนฮังการีเป็นโซเวียตฮังการี (Hungarian Soviet Republic) ได้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ โพลันยี จึงได้หนีออกจากบูดาเปสต์กลับไปยังเวียนนา ซึ่งในเวียนนา เขาได้พบกับว่าที่ภรรยาของเขา
1921 ได้ทำงานร่วมกับนิตยสารรายสัปดาห์ Becks Magyar Ugsag ของออสก้า จัสซี (Oscar Jaszi )
1923 แต่งงานกับอิโลน่า ดักซินสก้า (Ilona Duczynska) นักเคลื่อนไหวนิยมคอมมิวนิสต์ พวกเขามีลูกสาวด้วยกันชื่อคาริ (Kari Polanyi-Levitt) ซึ่งต่อมาเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในแคนาดา
โพลันยีและอิโลน่าใช้ชีวิตแต่งงานอย่างยากจน เพราะว่าโพลันยีบริจาคเงินเดือนของเขาให้กับผู้ลี้ภัย
1924 ได้เป็นบรรณาธิการของหนังสือแม็กกาซีนออสเตรียอีโคโนมิสต์ (The Austrian Economist) จนกระทั้งถึงปี 1933
1933 เมื่อฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) เริ่มมีอำนาจในเยอรมันและออสเตรีย โพลันยีจึงถูกกดดันให้ต้องลาออกจากแม็กกาซียออสเตรียอีโคโนมิสต์ หลังจากลาออกจากงานในแม็กกาซีนแล้ว โพลันยีจึงได้เดินทางไปยังอังกฤษ และได้ทำงานเป็นนักเขียนอิสระ และได้เขียนบทความชุด The Essence of Fascism ตีพิมพ์ลงในหนังสือ Christianity and the Social Revolution
1937 ได้งานสอนหนังสือที่สมาคมการศึกษาของแรงงาน (Workers’ Educational Association)
1940 ย้ายมาอยู่ที่เวอร์มอนต์ (Vermont) สหรัฐฯ โดยได้งานสอนหนังสือที่วิทยาลัยเบนนิงตั้น (Bennington College)
1941 ได้รับทุนจากมูลนิธิร๊อคกี้เฟลเลอร์ (Rockefeller Foundation) ระหว่างปี 1941-1943 , อิโลน่า ภรรยาของเขาก็ได้ตอบรับข้อเสนอตำแหน่งอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ที่วิทยาลัยเบนนิงตั้นและได้ย้ายตามอยู่ในสหรัฐฯ
1943 ช่วงสงครามปลายสงครามโลก เขาย้ายกลับมาอยู่ในลอนดอน และได้กลับเข้าทำงานที่สมาคมการศึกษาของแรงงาน
1944 เลคเซอร์ที่เขาใช้สอนหนังสือที่สมาคมการศึกษาของแรงงาน ถูกรวบรวมพิมพ์ออกมาในชื่อ The Great Transformation ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี โพลันยิ ได้เสนอแนวคิด Substantive Economic ซึ่งเขามองว่า “เศรษฐกิจ” มี 2 ความหมาย ซึ่งความหมายแรก เป็นแนวคิดของนักเศรษศาสตร์นีโอคลาสสิค ที่มองว่ากลไกตลาดมีเหตุมีผลในการตัดสินใจเพื่อหาอัตถประโยชน์สูงสุด แต่ Substantivism มองว่าบางครั้งตลาดก็ไม่ต้องมีเหตุผล บางครั้งมนุษย์อาจจะตัดสินจากปัจจัยทางสังคมหรือว่าธรรมชาติเป็นตัวกำหนด เขามองว่าการหาเงินไม่ใช่เป้าหมายหลักของเศรษฐกิจ แต่การประคับประคองชีวิตให้ดำรงอยู่คือเป้าหมายหลักทางเศรษฐกิจ
1947 ย้ายมาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ในนิวยอร์ค โดยเขาสอนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ แต่ว่าระหว่างนี้ภรรยาของเขาถูกปฏิเสธไม่ให้กลับเข้ามาในสหรัฐฯ เพราะเธอเคยเกี่ยวข้องกับคอมมิวนิสต์
1950 ย้ายมาอยู่ในแคนนาดา เพื่อที่จะได้อยู่กับภรรยาของเขา แต่ว่ายังไปสอนหนังสือในนิวยอร์คได้
1953 เขาเกษียณจากงานสอนหนังสือ แต่ว่ายังได้รับทุนจากมูลนิธิฟอร์ด (Ford Foundation) ในการทำวิจัยด้านเศรษฐกิจ
1957 Trade and Market in the Early Empires
1963 เดินทางกลับไปเยี่ยมฮังการีในรอบหลายสิบปีนับตั้งแต่ 1919 ซึ่งการกลับมาครั้งนี้เขาได้ร่วมก่อนตั้งวารสาร Co-Existence ขึ้น เพื่อโปรโมทสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
1964 23 เมษายน, เสียชีวิตในออนตาริโอ้ (Pickering, Ontario) แคนนาดา
1986 ร่างของเขาถูกนำกลับไปฝังไว้ในกรุงปูดาเปสต์
ผลงานเขียน
The Limits of the Market
The Great Transformation, 1944
Trade and Market in the Early Empires
Dahomey and the Slave Trade, 1966
The Livelihood of Man , 1977
For a New West : Essays, 2014