Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Month: January 2018

  • History of Quantum Mechanics

    1877 ลุดวิก โบล์ตซมันน์ (Ludwig Boltzmann) เสนอไอเดียว่าระดับพลังงานทางพิสิกส์น่าจะมีสถานะที่ไม่ต่อเนื่อง  1900 แม็กซ์ แพลง (Max Plank) เสนอแนวคิดว่า พลังงานสามารถที่จะคงสถานะได้ในจำนวนของปริมาณซึ่งแน่นอน (energy can only exist in certain amounts) ซึ่งเขาเรียนมันว่า ควอนต้า (Quanta) 1905 อัลเบิร์ต ไอสไตน์ (Albert Einstein) เสนอแนวคิดว่าว่า แสงประกอบขึ้นมาจากโฟตอน (photons) ซึ่งเป็นพลังงานซึ่งไม่ต่อเนื่อง 1913 นีลส์ บอห์ร (Niels Bohr) เสนอแบบจำลองโครงสร้างอะตอม 1922 อาร์เธอร์ คอมพ์ตัน (Arthur Compton) ทำการทดลองซึ่งพิสูจน์ว่ารังสีแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic radiation) สามารถที่จะถูกมองว่าเป็นอนุภาคโฟตอนได้ 1923 หลุยส์ เดอ โบรกลี (Louis de Broglie) ค้นพบว่าอเล็กตรอน…

  • Frederic Bartlett

    ฟรีเดริค ชาร์ล บาร์ตเล็ตต์ (Frederic Charles Bartlett) theory on reconstructed memory, นักจิตวิทยา บุกเบิก schema theory บาร์ตเล็ตต์ เกิดวันที่ 20  ตุลาคม 1886 ในสโตว, อังกฤษ (Stow-on-the-Wold, Gloucestershire,  England) ครอบครัวมีฐานะปานกลาง พ่อของเขาทำธุรกิจผลิตรองเท้า  บาร์ตเล็ตต์เริ่มเรียนชั้นประถมจากโรงเรียนในเมือง แต่ช่วงอายุ 14 บาร์ตเลตต์มีอาการป่วยด้วยโรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ (pleurisy)  ทำให้ต้องเรียนหนังสืออยู่กับบ้าน 1909 จบปริญตรีศิลปะศาสตร์จิตวิทยา ด้วยเกียรตินิยม จาก The University Correspondence College  1911 จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยลอนดอน (London University) สาขาจริยธรรมและสังคมศาสตร์ หลังจากนั้นก็เข้าเรียนต่อที่แคมบริดจ์ 1914 จบจากเซนต์จอห์นคอลเลจ (St John’s College, Cambridge) ทางด้านวิทยาศาสตร์ศีลธรรม (Moral Science) …

  • War of the Ghosts

    War of the Ghosts ในคืนหนึ่ง ชายหนุ่มสองคนจากอีกูแล็ค (Egulac) เดินลงไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเพื่อที่จะล่าสิงโตทะเล โดยในขณะนั้นบรรยากาศที่ริมแม่น้ำเต็มไปด้วยหมอกและเงียบสนิทมาก  จนกระทั่งชายหนุ่มสองคนไ้ด้ยินเสียงคนต่อสู้กันแว่วมา พวกเขาจึงคิดว่าอาจจะมีคนกำลังสู้รบกันอยู่บริเวณนั้น ชายหนุ่มทั้งสองคนจึงหนีขึ้นไปหลบอยู่หลังต้นไม้ริมฝั่ง  และไม่นานก็มีเสียงปืนใหญ่ตามมา, พร้อมกับที่พวกเขาได้ยินเสียงของไม้พายที่กระทบกับน้ำ, พร้อมกับเร่ิมมองเห็นเรือแคนนูกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้  มีชายห้าคนอยู่บนเรือแคนนู, แล้วชายคนหนึ่งบนเรือก็ถามชายหนุ่มทั้งสองว่า “พวกคุณจะว่าอย่างไรถ้าพวกเราจะพาพวกเจ้าล่องขึ้นไปเหนือน้ำด้วยกันเพื่อที่จะไปทำสงคราม” ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงตอบไปว่า “ข้าไม่มีธนู” “ธนูมีอยู่มากมาย ภายในเรือนี้” คนในเรือตอบ “ข้าคงจะไม่เดินทางไปกับพวกท่าน, ข้าอาจจะถูกฆ่าตายก็ได้ และก็ยังไม่ได้บอกญาติเอาไว้ด้วยว่าข้าจะเดินทางไปไหน … แต่เจ้า” หนึ่งในชายหนุ่มหันไปมองเพื่อนของเขา “เจ้าอาจจะเดินทางไปกับพวกเขาได้”  ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงได้ออกเดินทางไปพร้อมกับเรือแคนนู ในขณะที่อีกคนหนึ่งได้กลับไปบ้าน เหล่านักรบในเรือแคนนูได้เดินทางขึ้นไปยังต้นแม้น้ำ ยังเมือ งฝังตรงข้ามกับคาลาม่า (Kalama) ซึ่งคนจากเมืองนั้นก็ล่องลงมา แล้วสองฝ่ายก็ต่อสู้กัน มีคนถูกสังหารมากมาย  ชายหนุ่มได้ยินเสียงนักรบคนหนึ่งพูดออกมาว่า “เร็ว, พวกเราต้องกลับแล้ว: อินเดียคนนั้นถูกยิง”  ชายหนุ่มก็คิดในใจว่า “โฮ่, พวกเขาต้งเป็นผีแน่เลย” เพราะชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกเจ็บตรงไหน, แล้วพวกเขาจะพูดได้อย่างไรว่าชายหนุ่มถูกยิง เมื่อเรือแคนนูกลับมายังอีกูแล็ค, ชายหนุ่มก็กลับขึ้นฝั่งแล้วก็กลับไปที่บ้านของเขา, เขาจุดกองไฟขึ้น, และได้พูดกับทุกคนในบ้านว่า “ รู้มัย, ข้าได้เดินทางไปกับพวกผีแหละ…

  • War of the Ghosts

    War of the Ghosts ในคืนหนึ่ง ชายหนุ่มสองคนจากอีกูแล็ค (Egulac) เดินลงไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเพื่อที่จะล่าสิงโตทะเล โดยในขณะนั้นบรรยากาศที่ริมแม่น้ำเต็มไปด้วยหมอกและเงียบสนิทมาก  จนกระทั่งชายหนุ่มสองคนไ้ด้ยินเสียงคนต่อสู้กันแว่วมา พวกเขาจึงคิดว่าอาจจะมีคนกำลังสู้รบกันอยู่บริเวณนั้น ชายหนุ่มทั้งสองคนจึงหนีขึ้นไปหลบอยู่หลังต้นไม้ริมฝั่ง  และไม่นานก็มีเสียงปืนใหญ่ตามมา, พร้อมกับที่พวกเขาได้ยินเสียงของไม้พายที่กระทบกับน้ำ, พร้อมกับเร่ิมมองเห็นเรือแคนนูกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้  มีชายห้าคนอยู่บนเรือแคนนู, แล้วชายคนหนึ่งบนเรือก็ถามชายหนุ่มทั้งสองว่า “พวกคุณจะว่าอย่างไรถ้าพวกเราจะพาพวกเจ้าล่องขึ้นไปเหนือน้ำด้วยกันเพื่อที่จะไปทำสงคราม” ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงตอบไปว่า “ข้าไม่มีธนู” “ธนูมีอยู่มากมาย ภายในเรือนี้” คนในเรือตอบ “ข้าคงจะไม่เดินทางไปกับพวกท่าน, ข้าอาจจะถูกฆ่าตายก็ได้ และก็ยังไม่ได้บอกญาติเอาไว้ด้วยว่าข้าจะเดินทางไปไหน … แต่เจ้า” หนึ่งในชายหนุ่มหันไปมองเพื่อนของเขา “เจ้าอาจจะเดินทางไปกับพวกเขาได้”  ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงได้ออกเดินทางไปพร้อมกับเรือแคนนู ในขณะที่อีกคนหนึ่งได้กลับไปบ้าน เหล่านักรบในเรือแคนนูได้เดินทางขึ้นไปยังต้นแม้น้ำ ยังเมือ งฝังตรงข้ามกับคาลาม่า (Kalama) ซึ่งคนจากเมืองนั้นก็ล่องลงมา แล้วสองฝ่ายก็ต่อสู้กัน มีคนถูกสังหารมากมาย  ชายหนุ่มได้ยินเสียงนักรบคนหนึ่งพูดออกมาว่า “เร็ว, พวกเราต้องกลับแล้ว: อินเดียคนนั้นถูกยิง”  ชายหนุ่มก็คิดในใจว่า “โฮ่, พวกเขาต้งเป็นผีแน่เลย” เพราะชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกเจ็บตรงไหน, แล้วพวกเขาจะพูดได้อย่างไรว่าชายหนุ่มถูกยิง เมื่อเรือแคนนูกลับมายังอีกูแล็ค, ชายหนุ่มก็กลับขึ้นฝั่งแล้วก็กลับไปที่บ้านของเขา, เขาจุดกองไฟขึ้น, และได้พูดกับทุกคนในบ้านว่า “ รู้มัย, ข้าได้เดินทางไปกับพวกผีแหละ…

  • The coming of the wireless era will make war impossible, because it will make war ridiculous ยุคของการสื่อสารแบบไร้สายจะทำให้สงครามเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้, สงครามจะกลายเป็นเรื่องขำขัน Guglielmo Marconi

  • In the new era, thought itself will be transmitted by radio. ในยุคใหม่, ความคิดจะถูกส่งไปกับคลื่นวิทยุ Guglielmo Marconi

  • Every day sees humanity more victorious in the struggle with space and time นับวันมนุษยชาติก็ยิ่งจะมีชัยเหนืออวกาศและเวลา Guglielmo Marconi

  • But my memories are like a fire in winter—whenever I’m cold I can warm my hands at them. แต่…ความทรงจำของฉันเหมือนกับไฟในฤดูหนาว- เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันรู้สึกหนาว ฉันก็สามารถทำให้มือของฉันอบอุ่นขึ้นมาได้ด้วยมัน Madeleine L’Engle, The Joys of Love

  • A book, too, can be a star, a living fire to lighten the darkness, leading out into the expanding universe. หนังสือ, ก็เช่นกัน, เปรียบเสมือนดวงดาว ดั่งดวงไฟส่องแสงยามค่ำคืน ส่องนำทางไปสู่จักรวาลอันกว้างไกล Madeleine L’Engle

  • Writing letters is the purest form of friendship We humans can possibly possess. We capture ourselves in a moment and then we give that moment to someone else การเขียนหนังสือเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ของมิตรภาพที่พวกเราในฐานะมนุษย์จะสามารถทำได้ เพราะเราได้ผนึกตัวเองเอาไว้ในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วก็มอบช่วงเวลานั้นให้กับใครสักคน… Anonymous

  • Not being known doesn’t stop the truth from being true. การไม่รู้ไม่ได้หยุดความจริงจากความถูก Richard Bach, There’s No Such Place As Far Away

  • The good thing about science is that it’s true whether or not you believe in it.” ข้อดีของวิทยาศาสตร์คือมันจริงไม่ว่าคุณจะศรัทธามันหรือเปล่า Neil deGrasse Tyson

Don`t copy text!