Numquam prohibere somniantes 

Never stop dreaming

Leonhard Euler

ลีออนฮาร์ด ออยเลอร์  (Leonhard Euler)
ออยเลอร์ เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1707 ในเมืองบาเซิ้ล, สวิสเซอร์แลนด์ (Basel, Switzerland) พ่อของเชาชื่อพอล (Paul III Euler) เป็นปาสเตอร์อยู่ในโบสถ์โปเตสแตนท์  ส่วนแม่ชื่อมาร์กูไรต์ (Marguerite Brucker) 
ออยเลอร์มีน้องสาวสองคนชื่อ แอนนา มาเรีย (Anna Maria) และมาเรีย แม็กดาเลน่า (Maria Magdalena) และน้องชายคนหนึ่งชื่อโจฮันน์ (Johann Heinrich) 
หลังจากออยเลอร์เกิดได้ไม่นาน ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านไรเฮน (Riehen) ซึ่งห่างจากบาเซิ้ลราวหนึ่งชั่วโมงด้วยการเดินเท้า ที่นี่เขาได้รู้จักกับครอบครัวเบอร์นัวลี  และโจฮันน์ เบอร์นัวลี(Johann Bernoulli) ตระกูลนักคณิตศาสตร์แถวหน้าของยุโรปในเวลานั้น
พ่อของออยเลอร์ต้องการให้เขาเป็นนักบวชเหมือนตัวเอง แต่ก็ส่งเสริมให้ลูกเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
1720 20 ตุลาคม, ออยเลอร์เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยบาเซิ้ล (University of Basel) ในคณะศิลปะศาสตร์
1723 จบปริญญาโททางด้านปรัชญา โดยได้ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับปรัชญาเปรียบเทียบระหว่างแนวคิดของเดสคาร์ต (Descartes) กับนิวตัน (Isaac Newton) 
ช่วงเวลาที่เรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย ออยเลอร์ยังใช้เวลาวันอาทิตย์ไปเรียนคณิตศาสตร์กับโจฮันน์ เบอร์นัวลี ด้วย ซึ่งเบอร์นัวลี ค้นพบว่าลูกศิษย์ของเขามีความเป็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์อย่ายิ่ง เบอร์นัวลีช่วยพู          
  
  ดกับพ่อของออยเลอร์ทำให้เขาไม่ต้องไปเป็นปาสเตอร์ตามที่พ่อต้องการ
1726 ออยเลอร์จบปริญญาเอก โดยทำวิทยานิพนธ์ชื่อเรื่อง De Sono ซึ่งเกี่ยวกับ propagation of sound
1727 17 พฤษภาคม,​ ออยเลอร์เดินทางมาถึงยังเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซีย เพราะว่าพี่น้องเบอร์นัวลี  คือ แดเนียล (Daniel) และนิโคลัส (Nicolaus) ลูกชายของโจฮันน์ เบอร์นัวลี ได้เดินทางมาทำงานอยู่ที่สถาบันวิทยาศาสตร์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ( St.Petersburg Academy) อยู่ก่อนหนึ่งปีแล้ว และสัญญาว่าจะหาตำแหน่งให้กับออยเลอร์ แต่ว่านิโคลัสเสียชีวิตลงอย่างไม่คาดคิด ทำให้แดเนียลจึงเสนอชื่อของออยเลอร์มาทำงานที่สถาบันวิทยาศาสตร์นี้ในตำแหน่งของนิโคลัส
1731 ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านฟิสิก
1733 แดเนียล ได้เดินทางกลับไปยังสวิสฯ​ ออยเลอร์จึงได้รับตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาคณิตศาสตร์ที่สถาบันวิทยาศาสตร์แทนตำแหน่งของแดเนียล
1734 7 มกราคม, แต่งงงานกับแคทธารีน่า จีเซลล์ (Katharina Gsell, 1707-1773) หลังแต่งงานพวกเขาไปซื้อบ้านอยู่ริมแม่น้ำเนว่า (Neva River)  และมีลูกด้วยกันถึง 13 คน แต่ว่ามีเพียง 5 คนเท่านั้นที่มีชีวิตรอดพ้นวัยเด็ก
1738 มีไข้ล้มป่วย ซึ่งมีผลทำให้ตาขวาของเขาบอดเกือบจะสนิท
1741 เขาออกจากรัสเซีย มาอยู่ในเบอร์ลิน โดยตอบรับข้อเสนอจากกษัตริย์เฟรเดอริค แห่งปรัสเซีย (King Frederick) ให้มาทำงานที่สถาบันเบอร์ลิน (Berlin Academy) ออยเลอร์จึงได้ทำงานอยู่ในเยอรมันนานถึงยี่สิบห้าปี 
1745 พ่อของเขาเสียชีวิต
1748 มีผลงานเรื่อง Introduction to the Analysis of the Infinite)
1753 ออยเลอร์ซื้อบ้านหลังหนึ่งพร้อมแปลงเกษตรอยู่ในชาร์ล๊อตเต้นบูร์ก (Charlettenburg) ชานกรุงเบอร์ลิน
1755 Foundations of differential calculus
1756 ช่วงสงครามเจ็ดปี (Seven years war) กองทัพของรัสเซียที่บุกเยอรมันได้บังเอิญทำลายบ้านของออยเลอร์ในชาร์ล๊อตเต้นบูร์ก ซึ่งเมื่อจักรพรรดินีอลิซาเบธ (Empress Elizabeth Petrona) ทรงทราบ ก็ได้ทรงประทานเงิน 4,000 รูเบิ้ลเป็นค่าชดเชยให้กับออยเลอร์
1760s ได้เป็นครูสอนพิเศษให้กับเจ้าหญิงชาร์ลล๊อต (Friederike Charlotte of Brandenburg-Schwedt, Princess of Anhalt-Dessau๗
1766 พระนางแคทเธอรีน (Catherine the Great) ได้เชิญออยเลอร์ให้กลับเข้าไปสมาชิกของสถาบันวิทยาศาสตร์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอีกครั้ง
แต่ว่าออยเลอร์ในวัย 60 ปีขณะนี้มีอาการป่วยด้วยโรคต้อกระจกที่ตาข้างซ้าย ทำให้เขาเกือบจะตาบอกสนิท แต่ว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานด้านคณิตศาสตร์ของเขา 
1767 มีผลงานเขียนเรื่อง Elements of Calculus of variations
1768 หนังสือ Letters to a German Princess ถูกพิมพ์ออกมา โดยเป็นข้อความในจดหมายของออยเลอร์ที่เขียนติดต่อกับเจ้าหญิงชาร์ลล๊อต  โดยเนื้อหาการสนทนามีหลากหลายตั้งแต่คณิตศาสตร์ไปจนถึงปรัชญาและความเชื่อ  หนังสือเล่มนี้ได้รับความสนใจอ่านอย่างกว้างขวางมากกว่าผลงานด้านคณิตศาสตร์ของออยเลอร์ เป็นเพราะมันอธิบายแนวคิดที่เข้าใจง่ายกว่าให้กับคนทั่วไป 
1771 ไฟไหม้บ้านของเขาในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ว่างานเขียนส่วนใหญ่ของเขาปลอดภัย
1773 ภรรยาของเขาเสียชีวิต
1776 ออยเลอร์แต่งงานใหม่กับซาโลเม่ (Salome Abigail Gsell) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแคทธารีน่า
1782 ได้เป็นสมาชิกกิตติมาศักดิ์ของสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์อเมริกัน (American Academy of Arts and Sciences)
1783 18 กันยายน, ระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารกลางวันอยู่กับครอบครัวและแอนเดอร์ เลเซลล์ (Anders Johan Lexell) ลูกศิษย์ของเขาชาวอเมริกัน ทั้งสองกำลังสนทนากันเรื่องการค้นพบดาวยูเรนัส ออยเลอร์ก็เกิดอาการเลือดออกในสมอง และเสียชีวิตในไม่กี่ชั่วโมงถัดมา
ร่างของออยเลอร์ถูกฝังไว้ข้างๆ กับแคทเธอรีน่า ภรรยาคนแรกของเขาในสุสานสโมเลนส์ก (Smolensk Lutheran Cemetery) บนเกาะโกโลเดย์ (Goloday Island)
1957 ในโอกาส 250 ปีของออยเลอร์ ได้มีการย้ายเถ้าอัษฐิของเขามาไว้ที่สุสานลาซาเลฟ (Lazarev cemetery, Alexander Nevsky Monastery)

ออยเลอร์มีผลงานเขียนกว่า 850 หัวเรื่อง งานเกือบครึ่งของเขาถูกเขียนขณะที่อาศัยอยู่ในรัสเซีย 
Don`t copy text!