Tag: russian folk tale
-
Lefty
—
by
เลฟตี้ (เลฟช่า) (Левша หรือ Сказ о тульском косом Левше и о стальной блохе) เขียนโดยนิโคไล เลสกอฟ( Николая Лескова, Nikolai Leskov) ในปี 1881 ในแนวของนิยายปรัมปรา ในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ระหว่างที่ทรงเสด็จประพาสประเทศอังกฤษ ทรงเดินทางไปพร้อมด้วยคณะ และหนึ่งในนั้นเป็นชาวคอสแชค์กที่ชื่อว่า พลาตอฟ (Platov) เมื่อไปถึงประเทศอังกฤษ คณะของพระองค์ก็ได้พบกับสิ่งประดิษฐ์หลายอย่างของอังกฤษที่นำมาแสดงถวาย แต่พลาตอฟ เป็นคนที่หนึ่งที่เห็นว่่าของเหล่านี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ และช่างฝีมือของรัสเซียก็สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างเท่าเทียม หรือเหนือกว่าด้วยซ้ำไป จนกระทั้งมีคนนำเอาตุ๊กตาไขลานรูปหมัด มาแสดง …. นั้นทำให้คณะต่างประหลาดใจ ต่อมา มีการพลัดแผ่นดิน, ซาร์ นิโคลัส ที่ 1 ครองราชย์ พระองค์ได้สั่งให้พลาตอฟ หาช่างชาวรัสเซีย ที่สามารถสร้างนาฬิกาที่เหนือกว่าเจ้าหมัดเหล็กของอังกฤษนั้นบ้าง พลาตอฟจึงออกเดินทางไปยังเมืองตุล่า (Tula) ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนัก ทันสมัยของรัสเซีย เพื่อหาช่างฝีมือที่จะประดิษฐ์นาฬิกานั้นขึ้น และก็ได้พบกับช่างทำปืน 3 คน ที่รับปากว่าจะทำ ช่างปืนสามคน ขังตัวเองอยู่ในโรงงานอยู่นาน และไม่ยอมออกมา…
-
Sivka-Burka
—
by
Сивка-Бурка กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัสเซีย มีชาวนาแก่อยู่คนหนึ่ง เขามีลูกชายอยู่สามคน โดยลูกคนโตสองคนเป็นคนที่ฉลาดมาก ในขนาดที่ลูกชายคนเล็กกลับโง่เขลา ลูกคนเล็กมีชื่อว่าอิวานนุชก้า (Ivanuska) ครอบครัวนี้ประกอบอาชีพปลูกข้าวสาลี อยู่มาวันหนึ่ง พวกเขารู้สึกเหมือนว่ามีอะไรมาอย่างเข้ามาในไร่และทำลายข้าวสาลีของพวกเขาในตอนกลางคืน ชาวนาแก่จึงได้สั่งให้ลูกชายของเขาออกไปเฝ้าแปลงข้าวสาลี ในคืนแรก ลูกชายคนโตออกไปอยู่ในแปลงปลูกข้าวสาลี แต่ว่าเขากลับฝอยหลับไประหว่างที่กำลังเข้าเวรอยู่ , ในคืนที่สอง ลูกชายคนกลางมีหน้าที่ออกไปเฝ้าแปลงข้าวบ้าง แต่ก็เผลอหลับไปเช่นกัน พวกเขากลับมาบอกกับบิดาว่าไม่เห็นอะไรผิดปกติเลย ในคืนที่สาม อิวานุชก้า ออกไปเฝ้าข้าวสาลีบ้าง … เวลาผ่านไปจนกระทั้งเที่ยงคืน อิวานุชก้า เห็นว่ามีม้าตัวหนึ่ง มันสวมอานทองคำและมีบังเหียนเป็นเงิน เจ้าม้าตัวนั้นเข้ามากัดกินต้นข้าวสาลีอย่างเอร็ดอร่อย อิวานุชก้าพยายามเดินย่องเข้าไปใกล้ๆ เจ้าม้าตัวนั้นก่อนที่จะจับมันเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันไปเถอะ” เจ้าม้าหันมาพูดกับอิวานุชก้า “ถ้่าเจ้าปล่อยข้าไป เราจะได้กลายเป็นเพื่อนกัน ข้าจะมีของตอบแทนให้กับเจ้า … เจ้าต้องเดินไปในทุ่งสาลี แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานจากนั้นก็ให้พูดออกมาว่า "สิฟก้า-เบอร์ก้า ,จงปรากฏขึ้น …. แล้วข้าก็จะมาหาเจ้า มาช่วยเจ้า” อิวานุชก้า ตกลงปล่อยเจ้าม้าให้เป็นอิสระ จนกระทั้งวันหนึ่ง พระเจ้าซาร์ ซึ่งทรงไม่มีพระโอรส ได้ตัดสินใจที่จะจัดการแข็งขันเพื่อหาตัวแทนรัชทายาทที่จะมาสืบบังลังค์เป็นซาร์องค์ต่อไป ซาร์ได้นำพระธิดา ซึ่งทรงเป็นเจ้าหญิงที่สิริโฉม ไปไว้ยังหอคอยที่สูงมาก…
-
Snow Maiden
—
by
Снегурочка (Snow Maiden) กาลครั้งหนึ่งมีช่างไม้คนหนึ่งอาศัยอยู่กับภรรยา ทั้งคู่มีอายุมากแล้วแต่ว่าไม่มีบุตรด้วยกัน สามีจะมีหน้าที่ไปตัดไม้ในป่าและนำมันไปขายในเมือง ซึ่งก็ช่วยให้พวกเขามีกินพอประทังชีพได้ แต่ว่าเมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น การประกอบอาชีพนี้ก็ยากลำบากมากขึ้น “พวกเราแก่ลงทุกวัน , แล้วยามแก่ใครจะดูแลเราหล่ะ” ภรรยามักจะบ่นอย่างนี้บ่อยๆ “อย่ากังวลไม่เลย,แม่เอ๊ย พระเจ้าไม่ทอดทิ้งเราหรอก พระเจ้าจะต้องมาช่วยเราเมื่อถึงเวลา” สามีแก่ปลอบใจภรรยา อยู่มาวันหนึ่ง ในฤดูหนาว สามีเดินเข้าไปในป่าเพื่อตัดเอาฟืน โดยที่ภรรยาติดตามเขามาด้วย อากาศหนาวมากจนทั้งคู่เกือบถูกแช่แข็ง ชายแก่หันไปบอกกับภรรยาว่า “พวกเราไม่มีลูก , เราน่าจะสร้างปั้นหิมะให้มาเป็นลูกของเรานะ?” จากนั้นทั้งคู่ก็ลงมือโกยเอาหิมะมากองไว้ด้วยกัน และใช้เวลาอยู่ไม่นานพวกเขาก็สามารถสร้าง “Snegurochka” สาวรับใช้จากหิมะ ซึ่งมีความสวยงามอย่างมาก แต่ว่าคู่สามีภรรยากลับมองดูเธอด้วยความเศร้า เพราะหิมะนั้นไม่ได้มีชีวติ “พระเจ้า โปรดประทานลูกสาวน่ารักให้กับเราด้วยเถิด” หญิงแก่คร่ำครวญ ในทันใดนั้นก็เกิดปราฏิหารย์ขึ้นมา ตุ๊กตาหิมะของพวกเขาเริ่มที่จะขยับ เธอกระพริบตา แล้วก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้น จนสุดท้ายแล้วตุ๊กตาหิมะก็มีชีวิตขึ้นมา “สวัสดีค๊ะ อากาศดีนะคะ หนูจะมาเป็นลูกของพวกท่านเองคะ ขอหนูเรียกท่านว่า "พ่อ” และ “แม่” ได้ไหมคะ" ชเนกุโรชก้า พูดกับทั้งคู่ “โอ้ ลูกรัก” ชายแก่รีบตอบ, จากนั้นพวกเขาก็พาเอาลูกสาวที่สร้างขึ้นมาไปที่บ้าน…
-
Silver hoof
—
by
กีบเงิน (серебряное копытце) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนายพรานม่ายคนหนึ่ง เขามีชื่อว่า โกโกวานย่า (Kokovanya) เขามีลูกเลี้ยงอยู่คนหนึ่งชื่อว่าดาร์ยอนก้า (Daryonka) เธอเป็นเด็กสาวกำพร้าและยากจนซึ่งนายพรานเก็บมาเลี้ยงโกโกวานย่า และดาร์ยอนก้า แม้ว่าจะไม่ใช่ครอบครัวที่ร่ำรวยแต่ว่าชีวิตปานกลาง ไม่ได้ยากลำบากอะไร เวลาที่นายพราณออกไปล่าสัตว์ ดาร์ยอนก้าจะมีหน้าที่คอยดูแลบ้านและทำอาหาร เธอมีสัตว์เลี้ยงอยู่ตัวหนึ่งเป็นแมว ในตอนกลางคืนก่อนที่จะนอน นายพรานจะมาเล่านิทานให้เธอฟังหลายเรื่อง และเรื่องที่เด็กน้อยชอบฟังมากที่สุด เป็นเรื่องกีบเท้าสีเงิน ซึ่งเป็นเรื่องของแพะวิเศษตัวหนึ่ง ที่มีห้าเขา และขาหน้าข้างขวามีกีบเท้าเป็นเงิน เมื่อแพะวิเศษตัวนี้กระทืบเท้าข้างนี้ลงบนพื้น จะมีอัญมณีล้ำค่ามากมายปรากฏขึ้น ยิ่งถ้าแพะวิเศษใช้กีบเท้าสีเงินนี้ขุดดิน ก้จะเกิดเป็นเหมืองอัญมณีมากมายตรงนั้น โกโกวานย่าบอกกับดาร์ยอนก้าว่าเขาใช้เวลาหลายปีแล้วในการตามหาเจ้าแพะวิเศษและเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงอีกหน เขาก็จะเข้าไปในป่าเพื่อตามหามัน ดาร์ยอนก้าอ้อนขอที่จะตามพ่อเลี้ยงเข้าไปในป่าด้วยถ้าถึงเวลานั้น เพราะว่าไม่อยากจะอยู่บ้านคนเดียวอย่างเงียบเหงา และอีกอย่างเด็กน้อยก็อยากจะเห็นเจ้าแพะวิเศษตัวนั้นด้วย พอฤดูใบไม้ผลิมาถึง นายพรานโกโกวานย่า ดาร์ยอนก้าและลูกแมวสัตว์เลี้ยงก็เดินทางเข้าไปในป่า เจ้าแมวเหมียวที่แสนจะกล้าหาญเดินนำหน้าพวกเขาไป จนกระทั้งมาถึงที่ลานแห่งหนึ่งกลางป่าที่นายพราณสร้างที่พักเอาไว้ พวกเขาใช้เวลาตามล่าหาแพะวิเศษจนกระทั้งฤดูหนาวใกล้จะสิ้นสุด พวกเขาสามารถล่าแพะได้หลายตัว ได้หนัง และเนื้อของแพะมามากมาย แต่ก็ไม่เคยเจอแพะวิเศษ นายพรานคิดว่าสมควรจะกลับบ้านกันเสียทีและเอาเนื้อและขนแพะที่ล่าได้ไปขายในเมือง นายพราณบอกดาร์ยอนก้าว่าเขาจะออกไปหาม้ามาตัวหนึ่งเพื่อช่วยขนของเหล่านี้และให้เธอรออยู่ในกระท่อมก่อนจนกว่าเขาจะกลับมา ในวันที่สองหลังจากดาร์ยอนก้า ทำหน้าที่เฝ้ากระท่อมอยู่ลำพัง เธอได้ยินเสียงดัง กุบกุบ มาจากด้านนอก เมื่อเธอออกไปดูก็พบว่าเป็นแพะวิเศษ เธอพยายามจะวิ่งไปจับเจ้าแพะวิเศษ ร้องเรียกมัน แต่ว่าแพะวิเศษก็หนีไป ในวันที่สาม…
-
Fox and Hare
—
by
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมี หมาป่าและกระต่าย เจ้าหมาป่าอาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่ซึ่งสร้างขึ้นด้วยน้ำแข็ง ส่วนบ้านของเจ้ากระต่ายเป็นบ้านไม้ พอถึงฤดูใบไม้ร่วงบ้านของหมาป่าก็ละลายหายไป ในขณะที่บ้านของกระต่ายยังแข็งแรงดี หมาป่าจึงมาหาเจ้ากระต่าย และยึดบ้านของเจ้ากระต่ายเอาไว้ เจ้ากระต่ายจีงเดินร้องไห้ออกไปตามถนน จนกระถังมาเจอกับหมาสองตัว หมาทั้งสองถามเจ้ากระต่ายว่า “เจ้าร้องไห้ทำไม , กระต่ายน้อย”“ปล่อยฉันไว้คนเดียวเถิด คุณหมา , ใครจะไม่อดทนอยู่ได้หล่ะ ถ้าถูกเจ้าหมาป่ายึดเอาบ้านไม้ที่อบอุ่นไป ก้อบ้านของเจ้าหมาป่าที่เป็นน้ำแข็งมันละลายหายไปหมดแล้ว และฉันถูกไล่มา” กระต่ายตอบ"อย่าร้องให้ไปเลย พวกฉันจะช่วยเอาบ้านเธอกลับมาให้ “ หมาทั้งสองช่วยกันปลอบกระต่ายจากนั้นสุนัขทั้งสองก็ไปที่บ้านของเจ้ากระต่าย และตะโกนต่อว่าเจ้าหมาป่าให้คืนบ้านให้กับกระต่าย แต่ว่าเมื่อเจ้าหมาป่าออกมา แล้วก็ได้มีการต่อสู้กับสุนัขทั้งสอง แต่ว่าสุนัขสองตัวได้พ่ายแพ้ให้กับเจ้าหมาป่า จนต้องหนีกลับออกมา เจ้ากระต่ายเมื่อทราบว่าตัวเองคงไม่ได้บ้านคืน ก็เดินร้องไห้ต่อไปอีก จนกระทั้งมาพบกับ หมีตัวหนึ่ง เมื่อหมีทราบว่าเจ้ากระต่ายเสียใจด้วยสาเหตุใด ก็อาสาว่าจะไปเอาบ้านมาคืนให้เจ้ากระต่าย ก้ออาสาจะไปเอาบ้านคืนมาให้ แต่เมื่อเจ้าหมีสู้กับหมาป่า ปรากฏว่าเจ้าหมีแพ้อีก เจ้ากระต่ายเดินร้องไห้ไปตามทาง จนกระทั้งมาพบกับวัวตัวหนึ่ง "เจ้าร้องไห้ทำไม เจ้ากระต่าย” วัวถาม “ปล่อยฉันไว้คนเดียวเทิด ฉันเสียใจเพราะบ้านฉันโดนเจ้าหมาป่าใจร้ายยึดเอาไป มีหมาสองตัว และหมี พยายามจะช่วยเอาบ้านคืนให้ แต่ว่าพวกเขาก็โดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ท่านเองก็คงจะสู้เจ้าหมาป่าไม่ได้” เจ้ากระต่ายเล่าให้วัวฟัง “ขอให้ฉันได้ลองดูหน่อยนะ” วัวตอบ , จากนั้นเจ้าวัวก็ไปหาหมาป่าที่บ้านไม้ แล้วก็ได้ต่อสู้กัน…
-
Golden Fish
—
by
กาลครั้งหนึ่งนานมากแล้ว เกาะแห่งหนึ่งชื่อว่าบุยาน (Buyan) บนเกาะแห่งนี้มีบ้านเรือนสร้างด้วยไม้อยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งในบ้านเหล่านั้นมีชายหญิงแคระ ชราอาศัยอยู่ พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยฐานะที่ยากลำบาก ชายชรามีทำงานสานอวนและประมง แต่ว่าปลาที่จับมาได้นั้นมีจำนวนเล็กน้อยเหลือเกิน แค่พอประทั้งชีวิตในวันหนึ่งๆ เท่านั้น อยู่มาวันหนึ่งชายแก่นำแหออกไปทอดแห และเมื่อเหวี่ยงแหลงไปเขารู้สึกได้ว่ามีปลาติดแหแล้ว แต่ว่าแหกลับหนักผิดปกติ เขาคิดว่ามันคงเป็นปลาตัวใหญ่มาก แต่เมื่อดึงแหขึ้นมาจากน้ำแล้ว เขากลับพบว่าในแหว่างจนเกือบจะไม่มีอะไรเลย แต่ก็สังเหตุเห็นว่ามีปลาตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง มันต่างจากปลาทั่วไปตรงที่มันเป็นปลาทองคำ ทันใดนั้นเจ้าปลาทองคำก็พูดกับชายแก่ด้วยภาษามนุษย์ว่า “อย่าจับฉันไปเลย ชายแก่! ปล่อยข้ากลับไปยังทะเลเหอะ แล้วข้าจะทำประโยชน์ให้ท่านได้ ข้าจะหาสิ่งอะไรก็ตามที่ท่านต้องการมาให้” ชายแก่ใช้เวลาคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากเจ้าหรอก กลับทะเลของเจ้าไปซะเถอะ” จากนั้นชายแก่ก็เหวี่ยงเจ้าปลาทองคำกลับลงไปในน้ำทะเล เมื่อกลับไปบ้าน หญิงแก่ถามสามีว่าได้อะไรกลับมาบ้าง ชายชราก็บอกกับหญิงแก่ว่าเขาจับอะไรไม่ได้เลย นอกจากปลาเล็กๆ ที่เป็นทองคำตัีวเดียว และได้ปล่อยมันกลับมาบ้านแล้ว นั้นทำให้หญิงชราโกรธ และเอาแต่บ่นชายชราทั้งคืน “เจ้าโง่ เราแทบไม่มีอะไรจะกินอยู่แล้ว นั้นคือสิ่งที่คุณทำ” ชายชราเดินด้วยความหง่อย ออกไปที่ชายฝั่ง ,เจ้าปลาทองคำ โผล่ขึ้นมาจากน้ำทะเล และมันก็ถามชายชราว่าต้องการสิ่งใด , ชายแก่บอกว่าภรรยาของเขาต้องการขนมปังจำนวนหนึ่ง , ปลาทองคำบอกให้ชายชรากลับไปที่บ้าน แล้วเขาจะเจอกับขนมปังจำนวนมาก เมื่อชายชรากลับไปที่บ้านแล้วก็พบกับขนมปังมากมาย แต่ภรรยาของเขาก็เริ่มบ่นอีกว่า ถังซักผ้าที่บ้านมันทั้งเก่าและรั่่ว…
-
Princess Frog
—
by
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีอาณาจักรอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งพระราชามีโอรสอยู่สามพระองค์ ซึ่งต่างก็ล้วนเจริญพระชน จนเป็นชายหนุ่มรูปงาม อยู่มาวันหนึ่ง พระราชาทรงเรียกโอรสทั้งหมดให้เข้าเฝ้า แล้วรับสั่งว่า “โอรสข้า , พวกเจ้าจงไปทำคันธนูมาคนละอันสำหรับตัวพวกเจ้า จากนั้นจงใช้มันยิงลูกศรออกไป หากว่ามีหญิงคนใดที่นำลูกศรของเจ้ากลับมา นางคนนั้นจะได้เป็นภรรยาของเจ้า แต่หากลูกศรของใครไม่ได้ถูกนำกลับมา เขาคนนั้นจะห้ามแต่งงาน” โอรสองค์โต ทรงยิงลูกศรออกไป และเจ้าหญิงคนหนึ่งก็นำลูกธนูนั้นกลับมา โอรสองค์กลาง ยิงลูกศรออกไป แและลูกสาวของนายพลท่านหนึ่งเป็นคนเก็บลูกศรนั้นกลับมา โอรสองค์เล็ก ทรงยิงลูกศรออกไป แต่ปรากฏว่ามันตกลงไปในสระน้ำและมีกบตัวหนึ่งคาบมันกลับมา พี่ของพระองค์ทรงหัวเราะ ส่วนเจ้าชายอีวาน ก้ทรงร้องไห้ และตรัสว่า “ข้าจะแต่งงานกับกบ และอยู่กับมันชั่วชีวิตได้อย่าง" พิธีแต่งงานของโอรสทั้งสามคนของราชาถูกจัดขึ้น พร้อมกัน โดยเจ้ากบน้อยมีแท่นที่ทำให้สูงขึ้นสำหรับมันเข้าพิธี เวลาผ่านไป อยู่มาวันหนึ่งพระราชาต้องการที่จะเห็นฝีมือของเจ้าสาวทั้งสามว่าคนไหนที่เป็นคนที่มีฝีมือในการเย็บผ้าดีที่สุด พระราชาสั่งให้เจ้าสาวทั้งสองคนและกบ เย็บเสื้อมาให้พระองค์ เจ้าชายอีวานไม่คิดว่ากบจะตัดเสื้อผ้าได้ มันได้แต่ร้องและกระโดดไปมา จนกระทั้งเจ้าชายทรงบรรทมไปแล้ว มีหญิงสาวที่สิริโฉมปรากฏตัวออกมาจากเจ้ากบ เธอใช้ให้ป่าวไฟร่ และนางกำนัล ไปหยิบเอาผ้าและเครื่องมือถักร้อยมาให้ ไม่นานเธอก็ทำเสื้อที่สวยงามได้เสร็จและวางมันไว้ข้างๆ เจ้าชายอีกวาน จากนั้นเธอก็กลายร่างกลับไปเป็นกบ ในตอนเช้าเจ้าชายตื่นขึ้นมา ทรงดีใจที่พบว่ามีเสื้อวางอยู่ และได้นำมันไปถวายให้พระราชา "ตอนนี้มันเป็นเสื้อของเจ้าลูกรัก , จงสวมมันในวันสำคัญ”,…